Google
 

Sunday, April 4, 2010

โคตรลาวเลยหว่ะ

ทริปนี้วางแผนการเดินทาง เมื่อปลายปีที่แล้ว ข้อมูลคือ จองตั๋วแอร์เอเชียในราคา 460 บาท ไป-กลับ ไปลงที่อุดร และก็ข้อมูลหลังจากนั้นไม่มีในหัวรู้แต่ว่าไม่ยาก และไม่น่าจะมีอะไรมากมาย

แต่ก่อนออกเดินทางผมก็เข้า ไปค้นในเน็ตบ้างพอสมควรว่าที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก และการเดินทางจะต้องเป็นยังไง

ผมเลือกไฟลท์เช้าสุดของ แอร์เอเชียไปอุดรธานี โดยนัดแนะกับน้องที่ทำงาน เพื่อนร่วมทริปของผมที่ฟู้ดแลนด์ จรัญสนิทวงศ์ และก็นั่งแท๊กซี่ไปกันที่สุวรรณภูมิ ทำการเช็คอินด้วยเครื่อง Kiosk ที่แสนจะสะดวกสบาย ไม่ต้องไปต่อคิวยามเช้าที่มีผู้คนมาเช็คอินหนาตา แค่แสกนใบที่ปริ้นท์มากับเครื่อง Kiosk ไม่ถึง 30 วินาทีเครื่องก็ปริ้นท์บอร์ดิ้งพาสมาให้ และผมก็ไปหาอะไรกินที่ฟู้ดคอร์ท

กลับมารอที่เกทเพื่อบินสู่ อุดรในยามเช้า

ใช้เวลาบินไม่นานก็มาถึง สนามบินนานาชาติอุดรธานี

นั่งรถตู้ออกมา คนละ 50 บาท หาไข่กะทะกินแถว ๆ บขส. หลังจากที่ซื้อตั๋วรถทัวร์ระหว่างประเทศใน ราคา 80 บาท เพื่อที่จะไปเวียงจันทน์

ระหว่างอยู่บนรถไป เวียงจันทน์ผมเจอกับครอบครัวคนไทย 3 คน ซึ่งกำลังจะมีจุดมุ่งหมายไปที่วัง เวียง เราทั้ง 5 คนเลยตกลงจะเหมารถมินิแวนฮุนไดในราคา 2200 บาทเพื่อจะไปวังเวียงกัน ใช้เวลาเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง ถนนมันแคบครับสวนกันแค่ 2 เลน และคนขับที่นี่ช่างชิลซะเหลือเกิน แวะทำธุระส่วนตัวแทบจะตลอดทาง

ผมเข้าที่พักที่ โรงแรมทะวีสุข เป็นบังกะโลคืนละ 800 บาท ติดแม่น้ำซอง ที่นี่จ่ายเงินไทยหรือเงินกีปก็ได้ ส่วนเรื่องจ่ายเงินสกุลไหนถูกก ว่ากันอันนี้ผมไม่ทราบครับ

พอนำกระเป๋าวางเรียบร้อย พักอาบน้ำ ก็ออกไปเดินเล่นในตัวเมืองวังเวียงกัน เมืองเล็ก ๆ แต่ม่เสน่ห์มากมาก อากาศเย็นสบายทีเดียว

ผมไปหยุดกินข้าวที่ร้านแถว ๆ ที่พัก สั่งลาบไก่ที่ขึ้นชื่อ มันอบทูน่า และแน่นอนเบียร์ลาว ราคาอาหารที่นี่ค่อนข้างแพงทีเดียว จากการที่ได้เที่ยวตามประเทศ แถบอินโดจีนต้องบอกว่าค่าครองชีพสูงมาก ตอนแรกนึกว่าจะสูงเฉพาะนักท่องเที่ยว แต่คนประเทศนั้นก็จ่ายราคานี้ แต่ที่ถูกที่สุดคงจะเป็นเบียร์ลาว ทุกที่ขายราคาเท่ากันที่ขวดละ 10 พันกีป หรือ 40 บาท

ผมนอนหลับไปและตื่นเช้า ขึ้นมาท่ามกลางอากาศที่สดใส กับอาหารเช้าของโรงแรมริมแม่น้ำ วิวภูเขาสวยงาม

และใช้เวลาหมดไปกับการกิน จริง ๆ

ผมกับน้องร่วมทริป เดินข้ามสะพานไปยังอีกฝั่งนึงด้วยการจ่ายค่าผ่านสะพานไป 5000 กีป (ไป-กลับ)

ตรงดิ่งไปยัง tiger Cave ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามมาก

ไกด์นำทางเป็นเด็กน้อยชาว ลาว เรียกค่านำทางคนละ 10 พันกีป แล้วก็พากลับทางเดิม เหนื่อยพอสมควรในการลอดถ้ำ

แล้วผมก็กลับที่พัก พร้อมกับนัดแนะกับกลุ่มคนไทยที่มาด้วยกันว่าพรุ่งนี้เราจะกลับเวียงจันทน์ และเหมารถเช่นเดิมในราคา 2500 บาท เป็นรถแบบเดิม

พอนัดแนะกันเสร็จผมก็สั่ง ข้าวที่โรงแรม แล้วก็ออกไปหาเหล้ากินกันที่บาร์ซึ่งเจ้าของเป็น ฝรั่งที่รักเมืองวังเวียง จัดเหล้าไป 2 กระติกเป็นว้อดก้า เดินเซกลับที่พักกันเลยทีเดียว ในราคากระติกละ 30 พันกีป

ตื่นเช้ามาวันนี้ต้องรีบ นิดนึง เพราะต้องออกไปเวียงจันทน์แต่เช้า

รถแล่นมาเรื่อย ๆ ประมาณ 3 ชั่วโมงเหมือนเดิม ก็มาที่โรงแรมแสงตะวันที่ผมจองไว้เมื่อคืนผ่าน Agoda ในราคา 1400 กว่าบาท ติดริมน้ำโขงและสามารถรับสัญญาณมือถือไทย ได้

พอเก็บของผมก็ออกไปเดินเล่นใน เวียงจันทน์

และก็เหมารถไปเที่ยวในลาว กัน ที่หมายแรกคือวัดสีสะเกด

ตามด้วยประตูซัยครับ

พอตกเย็นก็ไปหาอะไรกินแถว ริมแม่น้ำโขง แพงมากมาก

แล้วผมก็ไปเดินเล่นในถนนคน เดิน และไปนั่งจิบกาแฟทรูคอฟฟี่ สาขาเวียงจันทน์ ที่ร้านนี้ขายผลิตภัณฑ์ของ apple ด้วยนะครับ

แล้วก็กลับที่พักมานอน ก่อนนอนก็แน่นอนครับ จัดเบียร์ลาวไปอีก

ผมตื่นเช้ามา จัดแจงเก็บของ เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม และก็หารถไปตลาดซ้าว เพื่อจะซื้อตั๋วรถทัวร์กลับอุดร ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นนะครับ เพราะวันนี้เป็นวันหยุด

พอซื้อตั๋วเสร็จก็เหมารถไป เที่ยวพระธาตุหลวงกัน แดดร้อนมาก มาก

แล้วก็กลับมานั่งพักกันที่ตลาด ซ้าว

และขึ้นรถกลับลาว ตอนผ่านแดนต้องเสียเงินค่าโอทีอีกคนละ 15 บาทนะครับเพราะวันนี้เป็นวันหยุ

แล้วผมก็หารถจากอุดรในราคา 80 บาท ไปสนามบินอุดร ทำการเช็คอินและบินกลับกรุงเทพอย่างสบายใจ

ชอบลาวจริง ๆ เพราะมันเป็นเมืองที่ชิล ๆ และไม่รีบร้อนอะไร

คงจะเหลืออีกแค่เพียงเมีย นม่าร์แค่นั้นก็จะครบประเทศแถบอินโดจีน หลาย ๆ ที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ บ้านเรานี่เองที่มีอะไรน่าสนใจรออยู่

สะบายดี

ขอบคุณเจ้าของทริปครับ

No comments: