Google
 

Tuesday, April 6, 2010

กินอาหารให้เป็นยา แต่อย่ากินยาเป็นอาหาร

สรรพคุณของพืขผักแต่ละ ชนิดว่ามีคุณประโยชน์ต่อการรักษาได้อย่างไรไว้ในหนังสือ ชื่อ
' ยามหัศจรรย์สำหรับคุณ ' เช่น

1.
ปวดหัว กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด
น้ำมันจากปลามีสรรพคุณป้องกันการ ปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง

2.
แพ้ละออง เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและ เกสรดอกไม้ ให้ กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว

3.
โรคหัวใจ
ดื่มชาเขียว เป็นประจำ สารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด

4.
โรค นอนไม่หลับ ดื่ม น้ำผึ้ง เป็นประจำ สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอน หลับฝันดี

5.
โรคหืดหอบ
กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง

6.
โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า (ปลาโอ) ปลา แมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ (
ปลา กระป๋อง ) น้ำมันปลาทำให้โรคไขข้ออักเส บบรรเทาลง

7.
ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูก และขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป

8.

ติดเชื้อในถุงกระเพาะ ปัสสาวะ ให้ กินน้ำคั้นจากลูกแคนเบอรี (ไม้เมืองหนาว) กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้

9..
โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่านโดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูง อายุด้วย
ให้ กินข้าวโพดช่วยบรรเทาอาการเครียด
วิตกกังวล และความคิดสับสนได้

10.
โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด ซึ่งมีสารแมงกานีสอยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้

11.
ความจำเสื่อม
แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครงหรือหอยอื่น ๆ
ซึ่งในเนื่อหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมองได้ดี

12.
เป็นหวัด กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือด ได้อีกด้วย

13.

ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง
โดยเฉพาะรำข้าวกะหล่ำปลี
ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศ หญิงเอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม ข้อสำคัญอย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน ในการเร่งการเจริญเติบโต ช่วย ให้อาการปั่นป่วนในท้องเมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงานทุเลาลง ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทำลาย ไขมันเลว
' คลอเลสเตอรอล ' ได้ ทำให้ระดับความดันเลือดลดลง ซึ่ง มีอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้ พืชผักที่กินเป็นอาหารประจำวันนั้นนอกจากจะอิ่ม ท้องแล้วยังมีสรรพคุณช่วยสร้างความสมดุลภายในร่างกายช่วยป้องกัน และรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆได้ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จัก เลือกกินให้เหมาะกับตนเอง โดย เฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้นนับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยเป็น ภูมิปัญ
ญาชาวบ้านในท้องถิ่นอัน ควรปกป้องหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลาน
ไทยขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ตก ไปอยู่ในมือของคนต่างชาติที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากร ธรรมชาติของ เราไปเป็นของตนทุกวิถีทาง ดังนั้นอนุชนรุ่นหลังจึงควรที่จะได้นำมาศึกษา ค้นคว้า และคิดค้นตามแนวทางที่บรรพบุรุษของ เราท่านได้วางพื้นฐานไว้ให้เพื่อนำมาใช้ ให้เป็นประโยชน์ในด้านโภชนาการของคนไทยต่อไป.

14.

มะเร็งเต้านม
กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลีจะช่วยป้องกันได้ดี

15.
มะเร็งปอด กินส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเอ อยู่ มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน

16
แผลในกระเพาะอาหาร
กินกะหล่ำปลี ซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผล เรื้อรังในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กหายขาดได้

17.
โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก

18.
เส้นเลือดตีบ
กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี
'โมโรอันแซตเทอเรต'

19.
ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่ายพืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมี

20.

น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล
กิน ผักบร็อกโรลี่ และถั่วลิสง คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร

อาการของการเกิดมะเร็ง ในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย


1.
มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุ
อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจาก มีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจ ด้วยกล้องจุลทรรศน์จ ะรู้ได้
มี ก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบากหรือมีการขยายตัว ของต่อมใน
ลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับ และรู้สึกได้ อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวด เร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อย บ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้อง หรือรู้สึกตื้อ
แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไป ได้ไม่กี่คำ

2
. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามี ก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อ

3.
มะเร็งรังไข่
อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือการ มีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์ มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการ ปวดหลัง

4.
มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย)
อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการ ซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ และมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่าง ทั่วร่างกาย บางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของ ช่องท้อง

5.
มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ
มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับ น้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บ หน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

6.
มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนัก ลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด

7.

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัส สาว ะ
< /FONT>
8.
มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า
และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือการเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะ บางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราว
ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคย มีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย

9.
มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผล เปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษาหรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือก เนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน


10.
มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที

11.
มะเร็งในกระเพาะอาหาร

12.

มะเร็งทรวงอก
-
ไปที่ร้านยาจีน ซื้อหัวเตย 1 ตำลึง หัวขิง 1ตำลึง ก้อนเกลือ 3 ก้อน นำมารวมกันแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 วัน ในน้ำ 1 ชาม จากนั้นให้ดื่มจนหมดชาม สรรพคุณในการรักษา
- หลังจากดื่มยานี้แล้วควรดื่มน้ำตามมาก ๆ นำส่วนที่เหลือมารับประทาน ยา นี้จะขับเอาของเสียออกทางอุจจาระหรือปัส สาว ะไม่ต้องตกใจ เป็นการขับของเสียออกหมดแล้วจะ ปกติ อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอ ย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อนบ วมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้ บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็น เวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9
ใน
10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณ ทรวงอก โดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมาก ขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของ ฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการ บวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่

13.
มะเร็งลำไส้ อาการ
น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการ ปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติมีเลือดออกปนมากับอุจจาระ ****ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มี อาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใ ช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคือ อาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือด มีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้

14.
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของ ร่างกาย

15.
มะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อย พุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและ มีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา
(Melanoma)คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระ จุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ด ทั่ว ร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณ จะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ
ขอ ให้ท่านนำเรื่องนี้ไปบอกต่อเป็นวิทยาทาน ท่านจะโชคดีมีความสุขตลอดกาล ***ตำรานี้ห้ามซื้อขาย หรือคิดเป็นเงินค่ารักษา
และขออย่าได้เก็บไว้เป็นส่วนตัวโดยเด็ดขาด หากท่านผู้อื่นรับทราบด้วยใจศรัทธา และกุศลจิตของท่าน ท่าน และครอบครัวจะประสบแต่ความสุข

No comments: