Google
 

Tuesday, April 6, 2010

เตรียมรับกับภัยธรรมชาติ

คำทำนายและพุทธพยากรณ์ของ พระพุทธเจ้า

การเตรียมตัวรับมือภัย ธรรมชาติครั้งใหญ่

1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ ดวงอาทิตย์ มากขึ้นเรื่อยๆ
และส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือ ละลายจะนำไปสู่คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่ แผ่นดิน

2. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เป็นเวลา 49 วันในระหว่างเดือน
ตุลาคม-พฤศจิกายน

3. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้างเป็นเวลา 7 วัน)
* ระยะเวลาเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรง ของโลก รวมแล้วมี ระยะเวลาทั้งสิ้น 56 วัน
ใน 3 วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ทวีปเอเชีย ในประเทศที่เป็นอริต่อกัน

ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหม่
2. พายุถล่ม
3. แผ่นดินแยกและแผ่นดินไหว
4. ภูเขาไฟระเบิด (จังหวัดทางภาคกลาง 2 ลูก,ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก ,
อีกทั้งในจังหวัดราชบุรี น่าน แพร่ อ.ร้องกวาง )
5. คลื่นยักษ์จากทะเล
6. โรคระบาดสุดจะเยียวยา
7. โรคสายพันธุ์ใหม่ ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันทีภายใน 6 วัน
8. คลื่นเสียงที่รุนแรงตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาด นั้นมาก่อน
9. อดอยากขาดแคลนอาหาร

การเตรียมตัวเตรียมปัจจัย เพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว

1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ในบ้านอย่างน้อย 3-6 เดือน
2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่ เสือผ้า กระเป๋าน้ำร้อน
ผ้าห่มฯลฯเพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะ เยือกจับขั้วหัวใจ
3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
4. ที่อยู่อาศัย
5. ยารักษาโรค
6. ด่างทับทิมและคาราไมล์ (จำเป็นมาก) ห้ามกินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่าง ทับทิม
เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี ส่วนคาราไมล์จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนัง
ที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้วจะหายได้ อย่างน่าอัศจรรย์
7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
8. เครื่องช่วยชีวิต
9. แสงสว่าง เช่น เทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้นท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน = 1ราตรี
และจะมืดมิด 7 ราตรรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)
10. เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

การดูแลตัวเองในช่วงเวลา วิกฤติ

1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิดไม่ว่าคนนั้น
จะ เป็นญาติสนิทหรือคนที่เรารู้จักก็ตาม
2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรคและสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น
3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง
4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะในช่วงเลานั้นประตูมิติของโลกทั้งสามภพจะถูกเปิดเป็นครั้ง แรก

ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณ ก็จะได้เห็น คนที่มาเยือนอาจจะเป็นผีเปรต ผีโขมด
ที่ เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราที่จำแลงมาก็ได้และห้ามอยากรู้อยากเห็น โดยเด็ด ขาด

5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม
7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น
9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่นงูพิษ จระเข้
10.ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้นจะราบเป็น หน้ากลอง
การ เตรียมจิตวิญญาณ

1. ชำระกรรมให้เบาบาง โดยหยุดโลภ โกรธ หลง ทำให้จิตใจสงบเบิกบานเพราะ
วันนั้นจะมีผู้ที่เส้น โลหิตในสมองแตกเสียชิวิ ตเป็นจำนวนมากเพราะเสียงที่ดังกึกก้อง
ไป กระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก ดังนั้นต้องปล่อยวางจิตใจให้เป็นบวกจะ ช่วยได้มาก
2. มีสำนึกทางจิตวิญญาณ
3. ฝึกการละวาง
4. มีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา
5. ฝึกการทำโฆษกรรมขออภัยต่อเจ้ากรรม นายเวร หรือผู้ที่เราล่วงละเมิด

การดูแลแก่นแท้ยามมีภัย

1. ได้ยินเสียงใดให้ละวางเสียงนั้น / รู้เห็นสิ่งใดให้ละวางสิ่งนั้นต้อง ไม่รับรู้ ไม่รับเห็น
ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงคนข้างบ้านร้อง เพราะกำลังจะตาย หรือได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลั
ต้องได้ยินแล้วผ่านเลยไป หากละวางไม่ได้จะเกิดอาการ ตายก่อนตาย
(รู้ว่า ตนเองจะต้องตายแน่ๆ หรือการตายทั้งเป็น)
2. ยอมรับให้ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา
3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้กลัวมากขึ้น ควรหากิจกรรมทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ
เพื่อให้จิตเป็นบวกเกิดความอิ่มเอิบ
4. สังเกตธรรมชาติก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น

ลางบอกเหตุก่อนเกิด ภัย??รรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะที่2)

ท้องฟ้าจะมืดมิดผิดปกติ ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายแลดูหดหู่
สัตว์ทั้งหลายจะไม่ปรากฏกายให้เห็น แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลน
ผิดปกติหรือบางตัวจะ นอนนิ่งน้ำตาซึม

ศาสนาอื่นนั้นไม่มีเหลือ เมื่อถึงเวลาแล้วจะหนีตายมาพึ่งศาสนาพุทธกันหมด
เท่าที่ทราบต่อไป มหาอำนาจอย่างเช่น อเมริกา อังกฤษ ฯลฯ จะต้องมาพึ่งพาไทย
ศูนย์ กลางโลก ศูนย์กลางศาสนา อยู่ในประเทศไทย ซึ่งต่อไป
ที่แห่งหนึ่งในประเทศไทยจะเป็นใจกลางโลก ใจกลางศาสนา

ต่อไป จะมีจักรพรรดิเป็นผู้ปกครองโลก พระยาธรรมิกราชจะคล้ายพระสังฆราช
และ จะมีพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่ง จะทำหน้าที่คล้ายกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามร่มโพธิ์ศรีก็คือ
สามโพธิสัตว์ที่ลงมาทำหน้าที่ลงมาทำหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนานั่น เอง

รายละเอียดของมหันตภัยที่ จะเกิด

สถานที่แห่งแรกในประเทศไทยที่จะได้เผชิญกับลาวาร้อนจากไฟใต้โลกจะ เกิด
ขึ้นจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดแรกในภาคอีสานตามรอยต่อของ จังหวัดที่
ติดกันเป็นแนวยาว เริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นแนวแยกของแผ่น ดินคดเคี้ยวไป
ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ธารโลหะร้อนจะไหลลามแผ่ออกไปเป็นบริเวณกว้าง
ข้าม วัยข้ามคืนติดต่อกันจากนั้นพายุที่รุนแรงจะนำน้ำมาดับไฟ
ก่อให้ เกิดน้ำท่วมและโรคร้ายที่จะระบาดอย่างรุนแรงจนสุดจะเยียวยาได้โดย
เฉพาะอหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ที่มนุษย์เชื่อว่าได้กำจัดหมด ไปจากโลกนี้แล้ว
แต่หารู้ไม่ว่ามันกำลังฟักตัวและจะมีฤทธิ์ร้ายแรงกว่าเดิม
ซึ่ง สามารถคร่าชีวิตผู้รับเชื้อได้ในเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น ฯลฯ

มนุษย์ที่รอดชีวิตไปได้ จะเข้าสู่ยุคใหม่ จะมีจิตใจที่ดีงาม
และมีอายุขัยที่ยาวจนน่าประ หลาดใจ มีอารยะธรรมเจริญก้าวหน้า โดยที่ไม่ได้สร้างเทคโนโลยี
ที่ก่อ ปัญหาให้กับโลกมากมายเช่นในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อสื่อสาร กับเพื่อนมนุษย์ต่างดาวได้
ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางโลก และเป็นประเทศแรกที่มีผู้สร้างยานอวกาศไป ท่องจักวาล
ได้เป็นแห่งเดียวในโลก โดยใช้พลังจิตในการขับเคลื่อนโดย ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้ให้เกิด
พลังงานที่ทำลายสิ่งแวด ล้อม และทรัพยากรธรรมชาติของโลกให้เสียหายเหมือนอย่างเช่นปัจจุบัน

นอกจากนี้ ต่อมไพนิลหรือตาที่ 3 ของมนุษย์จะถูกฟื้นฟูขึ้นมาให้มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ง่ายขึ้น กว่าในอดีตในระยะเวลาไม่นานนัก

ขอตัดตอนบางส่วนจากคัมภีร์ใบ ลานอักขระธรรมซึ่งได้ทำนายภัยพิบัติโลกไว้ดังนี้
พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดรู้แล้วจงรีบร้อนบอกเล่าสู่กันฟ?ง
หรือ พิมพ์แจกจ่ายตามกำลังศรัทธา จะเกิดมหากุศลช่วยให้ท่านหลุดพ้นจากภัย พิบัติทั้งปวง
ถ้าบุคคลใดไม่เชื่อมั่นตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจะเกิดเดือดร้อน ในปีจอนี้ขึ้น 4 ค่ำ
ผู้มีบุญจะลงมาเกิดพร้อมหนังสือใบลานฉบับนี้ ถ้าไม่มีอยู่ในบ้านเรือนใด
จะมีพวกผีปีศาจร้ายเข้าทำลายอย่างแน่ แท้ในปีจอต่อปีกุลยามเดือนหงายจะเกิดมี
งูพิษอยู่บนหัวกัดฉกให้ตาย และฝูงชนทั้งหลายจะเกิดเดือดร้อนหลายประการ

ในปีจอเมืองกรุงเทพ จะแตกพังทลายตอนเวลาไก่ขัน พระแก้วมรกตหัวเมืองเชียงใหม่
เม็ดข้าวใหญ่ จะได้กลับคืนสู่เมืองเวียงจันทร์
นี่คือคาถาขององค์อินทร์ พรหม ยมราช ได้เขียนลงในใบลานจงรักษาเก็บไว้ให้เป็นอย่างดี
เพื่อช่วยให้รอดพ้นจากภัยพิบัติในยามเกิดเหตุการณ์มหันตภัยพระ คาถาเขียนไว้ ดังนี้

“ ปะโต เมตัง ปะละชิมินัง สุขะโต จุติ เมตตะ นินะนัง สุขะโต จุติ ”

พระคาถาข้อนี้จะเขียนลงใส่ ใบลาน แผ่นทอง หรือแผ่นผ้า ก็ดีให้ติดไว้บนประตูห้อง



--

No comments: