Google
 

Sunday, April 18, 2010

ตลาดน้ำอยุธยา คลองสระบัว ... ละครรำพื้นบ้าน ที่ห่างไกลจากคำว่า "ละครพื้นๆ"

ตลาด น้ำอยุธยา คลองสระบัวละครรำพื้นบ้าน ที่ห่างไกลจากคำว่า ละครพื้นๆ

ในเดือนที่อากาศบัดเดี๋ยวร้อน บัดเดี๋ยวฝน แถมผู้คน (ส่วนหนึ่ง) ยังมึนงงกับการเมืองที่ตกอยู่ใน สภาวะบรรยากาศของความขัดแย้ง อึมครึม วังเวง ไม่รู้ว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร บรรยากาศ เช่นนี้ใครที่หมกมุ่นและอินกับการเมืองมากไปคงต้องระวังโรคโพลิติ คอล สเตรส ซินโดรม (Political Stress Syndrome) หรือ โรคเครียดทางการเมืองถามหา ส่วนใครที่เคร่งเครียดไม่ว่าจะใน เรื่องใดๆ หนึ่งในตัวช่วยพิฆาตความเครียดชั้นดีก็คือการออกเดินทางท่องเที่ยว ไปตามสถานที่ต่างๆ

สถานที่ท่องเที่ยวใน ประเภท "ตลาดน้ำ" นั้นแทบจะเรียกได้ว่าอยู่คู่เป็นขวัญใจของผู้คนที่ ชื่นชอบวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมมาช้านาน รวมถึงนักถ่ายภาพที่ต้องการจะถ่ายทอด บอกเล่าเรื่องราวของสังคมเหนือผิวน้ำให้คนดูได้รับรู้

ตลาดน้ำอยุธยา คลองสระบัวนับ ได้ว่าเป็นตลาดน้ำล่าสุดที่เพิ่งเปิดดำเนินการเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2552 ในพื้นที่ของเขตตัว เมืองกรุงเก่าอยุธยาตลาดน้ำแห่งนี้มี เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนตลาดน้ำแห่งอื่นก็คือ เป็นตลาดน้ำที่ถูกรังสรรค์ขึ้นกลางท้องนาและบึงน้ำที่มีชื่อว่า "ทุ่งขวัญ" ซึ่งเดิมทีพื้นที่แห่งนี้อยู่ท่ามกลางความเงียบสงบห่างไกล รายล้อมด้วยพื้นที่ชนบททั่วไปที่มีลำคลองสายเล็กๆ ไหลผ่าน ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ถึงแม้จะเห็นมีเศษซากของโบราณสถานอยู่ในบริเวณใกล้เคียงบ้าง ก็นับว่าน้อยมาก จึงมีนักท่องเที่ยวน้อยคนที่จะย่างกรายเข้ามาบริเวณ นี้ นอกผู้ที่พลัดหลงเข้ามา

ตลาดน้ำอยุธยา คลองสระบัวใน วันนี้ เป็นตลาดน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวที่นำเสนอความบันเทิงรูปแบบ ใหม่ที่เปี่ยมเอกลักษณ์ และเป็นจุดขายที่สำคัญ นั่นคือ ละครรำพื้นบ้าน ในรูปแบบของ นาฏลีลาบนผิวน้ำ ที่นำเอาความงดงามเรียบง่ายของทิวทัศน์และธรรมชาติของท้องไร่ ท้องนา ทิวไม้เขียวๆที่รายรอบพื้นที่โรงละคร รวมถึงซากวัดเก่าแก่ มาเป็นส่วนประกอบฉากที่งดงามเหมือนฝัน

คุณมลิณฑา กิตติวรรณ หรือคุณปุ๋ย ผู้อำนวยการแสดงและกำกับเวทีละครแห่งนี้ เคยให้สัมภาษณ์นิตยสาร คู่สร้าง คู่สม ว่า

เวทีการแสดง ที่อยู่ใต้น้ำ เกิดจากแนวคิดของ อาจารย์ดุลพิชัย โกมลวานิช (นักวิชาการด้านวัฒนธรรม) อาจารย์บอกว่า อยากจะเปิดโรงละครเล็กๆที่อยุธยา ตรงวัดจงกลม และอยากให้กลุ่มนักแสดงที่ปุ๋ยดูแลอยู่มาแสดง

ก้าวย่างแรกที่เท้านำฉันเข้าสู่บริเวณ ด้านหน้าและด้านข้างของโรงละคร สิ่งที่สะกดให้หยุดดูได้เนิ่นนาน คือ ธรรมชาติที่สวยงาม รอบๆตัว ห่าน ฝูงหนึ่งส่งเสียงแหลมร้องเหมือนจะกล่าวต้อนรับผู้มาเยือน แล้วนำทางห่านทั้งฝูง บ้างเดินตุปัดตุเป๋ บ้างวิ่งตามๆกันลงไปในพื้นที่ชุ่มน้ำ ไล่จับปลาตัวเล็กในสระน้ำธรรมชาติที่มีต้นบัวขึ้นอยู่มากพอดู ภาพเรือสำปั้นลำน้อยจอดซุกอยู่ในพงหญ้า และดอกบัวสีสันจัดจ้าน ตัดกับสีเขียวของหญ้าที่ขึ้นหนาตาอย่างไม่เกรง ใจ ก่อเกิดภาพงดงามดังเกิดจากการตวัดปลายพู่กันของจิตรกรที่ชำนาญ

ควายตัวเขื่องหลายตัวแช่น้ำแช่โคลน ในปลัก คลายร้อนจากอากาศที่อบอ้าว ท่าทางที่สบายๆของพวกมัน ไม่บ่น ไม่ร้อน ไม่เครียด เหมือนความสุขอยู่รอบๆตัว เห็นควายแล้วทำให้ตระหนักได้ว่า .. ด้วยภารกิจมากมายที่ถั่ง โถมเข้ามาในแต่ละวัน .. ทำให้ผู้คนมักจะ ละเลยความงดงามรอบตัว ที่แค่เอื้อมมือออกไปก็สัมผัสได้แล้ว

เวทีของโรงละครอยู่กลางสระน้ำขนาด ใหญ่ โดยตรงกลางเป็นเวทีหลัก มีกลองล้านนาตั้งเด่นเป็นฉากหลัทางเดินแยกออกไปด้านซ้ายและ ขวา เป็นส่วนหนึ่งของเวทีการแสดงที่เชื่อมกันได้ทั้งหมด และกว้างขวางพอสำหรับโชว์ฉากการต่อสู้ อีกทั้งยังมีเวทีใต้น้ำที่เป็นจุด ไฮไลท์ เพื่อให้นักแสดงลงไปยืนได้ครึ่งตัว หรือดำน้ำมาโผล่ตรงจุดต่างๆ เป็นลูกเล่นที่ทำให้ต้องลุ้นเล็กๆว่านักแสดงจะมาโผล่ที่จุดไหน กัน

ทุกรอบที่การแสดงยุติลง นักท่องเที่ยวมักจะให้ความสนใจลงไปเดินบนเวทีการแสดงกลางน้ำ บ้างก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ในขณะที่เด็กๆชอบอกชอบใจนักหนาที่จะ เกลือกกลิ้งบนผืนน้ำที่ลึกแค่คืบจากพื้นเวที ครั้งหนึ่งของการไปชม ฉันเห็นฝรั่งคนหนึ่งกระโดดลงไปในน้ำ แล้วผุดดำว่ายอย่างสนุกสนาน

พื้นที่รอบโรงละครมีโครงสร้างส่วน ใหญ่เป็นไม้ไผ่ ยกเว้นทางเดินที่มีส่วนประกอบของคอนกรีต บริเวณสำหรับผู้ชมจะอยู่รอบๆ เวทีทั้ง 360 องศา ทำให้เลือกได้ว่าชื่นชอบที่จะดูละคร รำ ณ จุดไหนก็ได้ ไม่ต้องมาอออยู่เพียงด้านเดียวเหมือนเวทีละครที่อื่น มีโต๊ะและแคร่ไม้ไผ่ให้นั่งชมละครได้ชิลๆ จะทานอาหาร และเอนหลังก็ไม่ผิดกติกาแต่ประการใด แต่เห็นหลายๆคนชื่นชอบที่จะลงไปนั่งล้อมวงกันบนพื้นที่ปูด้วยไม่ ไผ่ทั้งลำ ทั้งเพื่อทานอาหารและชมการแสดงแบบใกล้ชิด ได้อรรถรสที่รื่นรมย์ของการแสดง ในขณะที่หลายคนเลือกที่จะหย่อนขาลงไป แช่ในน้ำให้เย็นใจเล่นซะอย่างนั้น

เช่นเดียวกับตลาดน้ำโดยทั่วไปที่ต้อง มีอาหารอร่อยๆให้ได้ลองลิ้ตลาดน้ำแห่งนี้มีแม่ค้าพายเรือขายสินค้า ประเภทอาหารทั้งที่ทานจริงๆหรือทานเล่นๆอยู่บ้าง แต่ไม่มากจนแออัดเหมือนตลาดน้ำแห่งอื่นๆ ร้านรวงส่วนใหญ่จะอยู่บนพื้นไม้ไผ่เหนือผิวน้ำ ที่ทอดตัวยาวเป็นทรงสี่เหลี่ยมล้อมบึงน้ำชนบท

เสน่ห์อันดับต้นๆของตลาดแห่งนี้ก็ คือแม่ค้า ทุกคนเป็นมิตร ยิ้มแย้ม เชิญชวนให้คนที่ผ่านไปมาแวะชิมทั้ง ขนมและอาหาร ไม่มีเสียงบ่นให้ระคายหู สินค้าประเภท อาหารพื้นบ้านในยุคดั้งเดิม หลายสิ่งหลายเมนูก็ไม่เคยคุ้นสำหรับ คนรุ่นใหม่ และบางสิ่งก็ไม่มีในสาระบบของข้อมูลทั้งของคนรุ่นพ่อแม่ หรือเด็กยุคดิจิตอลแม้แต่น้อย สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับนักท่อง เที่ยวที่แวะมาเยี่ยมเยือนตลาดแห่งนี้ได้พอสมควร ที่เก๋ไก๋ก็คือบรรดาพ่อค้าและแม่ค้าใหญ่น้อยต่างก็ใช้คอนเซปต์การ แต่งกายแบบย้อนยุค

ภาชนะใส่อาหารหลายๆ อย่างก็เป็นแนวพื้นบ้าน อาหารหลายอย่างถูกบรรจุมาในสิ่งที่เราคุ้นเคย ว่าเป็นเข่งปลาทู แต่เมื่อมีการจัดตกแต่งด้วยใบตองหรือดอกกล้วยไม้ เข่งปลาทูธรรมดาก็กลายเป็นภาชนะสุดแนวที่เอาจานกระเบื้องเคลือบมา แลกก็ไม่มีวันยอม

เมนูแปลกแบบที่เอาดอกไม้สวย กลางน้ำมายำใส่เครื่องและด้วยความที่ชื่อแนวเดียวกับชื่อสถานที่ ก็เลยยิ่งส่งผลให้เมนูนี้เป็นที่เรียกหาของนักท่องเที่ยวซึ่งมา เยือนถึงตลาดน้ำคลองสระบัวแห่งนี้...นี่นับเป็นครั้งแรกที่ได้ลอง รสกลีบดอกบัวสีบานเย็นรสชาติเป็นอย่างไร คงต้องท้าให้ไปลองด้วยตัวเอง...ที่นี่ทำให้เราเพลิดเพลินกับบรรยากาศและอาหาร สารพันท่ามกลางกลิ่นไอดินแห่งบึงบัวได้อย่างลืมไม่ลงเชียวค่ะ

ละครรำพื้น บ้านและวรรณคดีไทยหลายเรื่องถูกคัดสรรอย่าง พิถีพิถันให้มีความน่าสนใจ ไม่ยืดยาวจนเกินไป แล้วนำมารังสรรค์เป็นงาน การแสดงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเวทีละครตลาดน้ำอยุธยา คลองสระบัวแห่งนี้

ละครรำทุกชุด ระเริ่มต้นด้วยการมีเรือพายส่งนักแสดงในเครื่องแต่งกายที่งดงาม ไกลจากคำว่าเครื่องละคร "พื้นๆ" หรือ "ทั่วไป" เครื่องถนิมพิมพาภรณ์ที่อยู่บนตัวนักแสดงแต่ละคนจะเห็นได้เฉพาะตามโรงละครใหญ่ๆ ค่าชมแพงลิ่วเท่านั้น แต่ที่นี่กลับนำมาสร้างความสำราญให้กับนักท่อง เที่ยว เมื่อเรานั่งอยู่ในระยะไกล จะมองเห็นเหมือนเทพบุตร เทพธิดากำลังล่องลอยมาบนผิวน้ำ

ขณะกำลังแสดง ลีลาท่าทางและการร่ายรำอันงดงามสง่ากลางแจ้งเหมือนกับกำลังใช้ อิทธิฤทธิ์เล่นและเดินโดยที่มีผิวน้ำเป็นพื้นเวที ที่ทำให้การละสายตาออกจากผืนน้ำของผู้ชมรอบตลาดเป็นสิ่งลำบากยาก เย็น (ฉันจะเขียนบทความสำหรับละครรำแต่ละเรื่องอีกครั้ง เมื่อโอกาสอำนวยค่ะ) … ที่สำคัญไม่ง่ายเลยที่เราจะ ได้ดูละครพื้นบ้านที่ดำเนินเรื่องด้วยการขับเสภาสดๆ โดยไม่มีบทพูด ยกเว้นจากตัวตลก เสภาขับขานโดย อาจารย์ไพศาล วงษ์ศิริ ด้วยน้ำเสียงและการเอ่ยเอื้อนเสภาที่ถ่ายทอดอารมณ์สู่คนดูได้ ไพเราะเหลือเกิน

ฉันดูการแสดงมาแล้วหลายรอบ ได้เห็นความตั้งใจ และความทุ่มเทของ ผู้กำกับเวที ดนตรีไทยประกอบแต่ละฉาก อาจารย์ที่ขับเสภา และนักแสดงทุกคน ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนแรงของ วัน หลายครั้ง ที่หลายนักแสดงหลายคนได้รับบาดเจ็บมากบ้าง น้อยบ้าง จากการแสดงที่ออกมาได้สมจริงสมจัง โดยไม่หวังเพียงหลอกคนดู ทำให้เราซึ่งเป็นคนดูรู้สึกว่า คุ้มค่ากับการเดินทางมาไกล นี่ยังไม่รวมกับการได้เห็นการแสดงดีๆ Free of charge (หากคิดว่าเงิน 50 บาท ที่จ่ายตอนเข้ามาเป็นค่าเครื่องดื่มที่ขอได้ไม่อั้นตลอดทั้งวัน) … ลึกๆในใจอยากให้เก็บค่าเข้าชมการแสดงบ้าง เพื่อให้คุ้มกับค่าตัวนักแสดง และค่าใช้จ่าย ฉัน อยากไปดูอีกนานๆค่ะ ก่อนจะกลับบ้านอย่าลืมแวะไปให้กำลังใจนักแสดงด้วย การมอบ ทิปเล็กน้อยที่ โต๊ะข้างเครื่องดนตรีไทยด้วยนะคะ

ฉันชอบองค์ประกอบของฉากธรรมชาติของโรง ละครพื้นบ้านที่สวยงามจับตา จับใจ ไม่ว่าจะมองยามเช้าที่มีสายลมพัดผ่าน ท้องทุ่ง หรือยามบ่ายที่แสงสีทองของดวงอาทิตย์ส่องต้องบรรยากา ศทุ่งนาน้อยๆ บนตลาดบกที่เป็นส่วนหนึ่งของเวทีการแสดงเล็กๆ อาทิ การรำสี่ภาค .. ทุ่งนาที่เขียวขจีที่ผลิดอกออกใบชูช่อไสว ท้าทายสายลม แสงแดด สายฝน .. องค์ประกอบของธรรมชาติที่ดูกลม กลืนกันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นกอข้าว กองฟาง น้ำใสไหลริน ดูแปลกตา ..

ฉันไปชมการแสดงมาแล้ว 6 รอบ ด้วยกัน และยังจะไปชมอีกเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพนั้น ขอบอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงไม่ว่าท่านจะเป็นนัก ถ่ายภาพแนวใดก็ตาม และหากมีเวลาพออยากจะขอแนะนำให้อยู่ถ่ายภาพจนครบการ แสดงทั้งห้ารอบซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์การถ่ายภาพให้กับเรา ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ขนเลนส์ทุกตัวที่คุณมีมาให้หมดเพราะสามารถใช้ได้ ทุกช่วงจริงๆ โดยเฉพาะเลนส์เทเล เพื่อให้ถ่ายรูปครึ่งตัวของนักแสดงได้สวยขึ้น

เสียดายอยู่นิดเดียวจริงๆ เสียดาย ที่การแสดงเริ่มตั้งแต่ช่วงใกล้เที่ยง ไปจนถึงเวลา 5 โมงเย็น ซึ่งฉากหลังไม่ใช่มุมโพลาไรซ์ จึงทำให้ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องต้องหันหน้าเข้าหาแสงอาทิตย์ ท้องฟ้าฉากหลังขาวโพลน หน้าตานักแสดงเลยดำไปค่อนข้างมาก .. ถ้าหากกลับด้านเวทีการ แสดงจะทำให้ถ่ายภาพละครทุกชุดโดยใช้ฉากหลังท้องฟ้าได้สวยสุดๆ ทุกรอบ ทั้งการถ่ายรูปนิ่ง และการถ่ายวีดีโอ แต่แค่มีการแสดงดีๆ สวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปและเขียนบทความก็นึกขอบคุณในคณะนักแสดงและผู้เกี่ยว ข้องแล้วค่ะ การถ่ายรูปให้สวยต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวแล้วล่ะค่ะ ใครมีเทคนิคดีๆเพื่อแก้ปัญหา ก็อย่าลืมบอกกันบ้างนะคะ

อยุธยาใกล้แค่นี้เองค่ะ พาน้องๆหลีกลี้จากการเล่นเกมส์หน้า คอมพิวเตอร์ มาพักผ่อน ชื่นชมกับวิถีชีวิตเรียบง่าย ที่นับวันจะสูญหายไปจากสังคมไทยเรา มาดูการแสดง ที่งดงาม เปี่ยมอรรถรส ให้ข้อคิดดีๆในการดำเนินชีวิต และส่งเสริมสนับสนุน รวมถึงเป็นกำลังใจให้กับความพยายาม และความตั้งใจสุดๆของเหล่านักแสดง กันนะคะ

ตลาดน้ำคลองสระบัวเปิดเฉพาะวันเสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 ไปจนถึง 17.00 น. การแสดงเริ่มรอบแรก 11.00 น. ใช้เวลาในการแสดงรอบละประมาณครึ่งชั่วโมง รอบสุดท้ายเวลา 17.00 น.


เว็บไซต์ของตลาดน้ำคลองสระบัว http://www.ayutthayafloatingmarket.com/

ร้านกาแฟน่าไป มาก ดูจาก เด็กเสริฟ แล้ว

ร้านกาแฟน่าไป ^^ (เค้าว่ากันมางั้นนะ)

ร้านกาแฟในเมืองไทย แถวพระราม5

อยากไปกิน อันนี้ไม่ทราบว่าของเวียดนามหรือไทยกันแน่แต่คอมเม้นส่วนใหญ่เห็น ว่า เวียดนามผมเองก็ไม่ยืนยันนะครัยในเมวมันบอก แถวพระราม5 ถ้าพระราม5จิงอยากไปกินสักแก้ว ฮี่ๆ

ครัยไปกินอย่าใช้ความรุน แรงล่ะครับ ฮี่ๆเดวแก้วเค้าแตกเอาจะยุ่ง!!

Electroman