Google
 

Tuesday, April 6, 2010

ดอดชม ปิง นครา : บูติกโฮเตลงด งามหรูล้านนาโคโลเนียลสไตล์

หากจะตระเวนหาตึกเก่า ๆ อาคารโบราณในเชียงใหม่แล้วหาได้น้อย ทุกทีเพราะการลงทุนก่อสร้างใหม่ ๆ เข้ามาบดบัง ทุบทำลายอาคารสวย ๆ ไปเกือบหมด ยกเว้นถนนบางสายที่จะเห็นได้อยู่คือย่านถนน วัดเกตุ ย่านถนนท่าแพที่เห็นว่าจะเอาสายไฟลงดินทั้งหมด ก็คิดว่าน่าจะเป็นถนนอีกสายที่น่าสนใจ

ว่า ถึงตึกเก่า ๆ เก๋า ๆ ในเชียงใหม่ที่ดั้งเดิมจริง ๆ ก็จะออกไปในสไตล์โคโลเนียล ซึ่งย้อนไปเมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมาที่ทางอังกฤษได้มามี อิทธิพลทำการค้าการขายทั้งไม้สัก สมัยบริษัททำไม้ บอมเบย์ เบอร์ม่า จำกัด ยุคนั้นก็มีอิทธิพลต่อสถาปัตยกรรมของเชียงใหม่อย่างมากที่สร้าง “ตึกฝรั่ง” ไว้หลายที่

เช่น ที่ยังเห็นอยู่คือ อาคารที่ทำการของบริติช เคานซิล เชียงใหม่ ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นจากงานสถาปนิก49 ในการรักษาอาคารรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2480 ,ตึกที่ทำการของสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มช. , ตึกโรงเรียนยุพราช,ศาลแขวงเชียงใหม่ เป็นต้น

โดยอาคารสไตล์โคโลเนียลก็จะมีเอกลักษณ์เด่น ๆ คือมีลักษณะการก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูนและทาสีขาว พูดง่าย ๆ คือเป็นอาคารแบบตะวันตก ปัจจุบันก็มีประยุกต์เป็นล้านนาโคโลเนียล ตามแต่จะผสมผสานศิลปะ

เกริ่น มาพอสมควรเข้าเรื่องเลยครับ ล่าสุดที่เชียงใหม่ก็มีโรงแรมบูติก แห่งใหม่ที่นำเอาโคโลเนียลล้านนาสไตล์มาสร้างแบบแมนเมด ชื่อ “ปิง นครา” ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นอาคารที่สวยอันดับต้น ๆ ของเชียงใหม่เลยทีเดียวและล่าสุดก็คว้ารางวัลด้านการดีไซน์มาจาก นิตยสารไอดีไซน์ ในรางวัล 'Recommended Designed Hotel Award' และรางวัล 'Architecture Excellence Award' จากสมาคมสถาปนิกล้านนา

อาคาร โรงแรมปิงนครานี้ตั้งอยู่ใกล้ ๆ วัดชัยมงคล ติดกับสถานที่เก่าแก่ของเชียงใหม่ที่หนึ่งคือสำนักจัดการทรัพยากร ป่าไม้ที่ 1 ถนนเจริญประเทศ ใช้เวลาก่อสร้างนานประมาณ 5 ปี จุดเด่นคือสี ขาวของอาคาร ลายฉลุบนเนื้อไม้แบบล้านนา ที่สามารถมีเรื่องราวเล่าประ กอบได้ไม่รู้จบ เช่น ลายสลักรูปช้างลากซุงสะท้อนถึงอดีตที่เชียงใหม่ หรือเขตแม่น้ำปิงในบริเวณตั้งแต่วัดเกตุไล่ลงมาถึงวัดชัยมงคลเป็น ที่มีช้างล้างซุงไม้สักในสมัยบริษัททำไม้


โรงแรมปิง นคราฯ เป็นโรงแรมบูติกที่มีสไตล์โดดเด่นที่ผมว่าไม่มีอะไรก็ไปถ่ายรูป เล่นหน้าโรงแรมได้ คิดว่าเจ้าของ “คุณชัยรัตน์ อัศวางกูร” คงไม่ว่าครับ โรงแรมนี้มีห้องพัก 19 ห้อง เป็น Deluxe 8 ห้อง Grande Deluxe 7 ห้อง Grande Deluxe with Jacuzzi 4 ห้อง

การตกแต่งและลายดอกไม้ภาย ในแต่ละห้องนั้นจะแตกต่างกันออกไป ทั้งเฟอร์นิเจอร์ บานประตู รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ อีกมากมาย ก็เป็นงานฝีมือที่ดีไซน์เองสไตล์ของ โรงแรมเองที่หาชมได้ยากเพราะแต่ละห้องไม่ธรรมดา ส่วนราคานั้นก็อยู่ในระดับบูติกทั่วไปครับ ในช่วงมกราคม-มีนาคมนี้ราคา Deluxe 4,900 บาท Grande Deluxe 5,900 บาท Grande Deluxe w/ Jacuzzi 6,900 บาท สนใจจองก็ลองเข้าดูที่เว็บไซต์โรงแรมครับ

หากมาเชียงใหม่ลองไปแวะชม แวะพัก แวะถ่ายรูปนะครับ

No comments: