Google
 

Sunday, April 4, 2010

BlackBerry Bold 9700 อินเทรนด์แชต-โซเชียล-3G-กล้องชัด



แบล็กเบอรี Bold 9700 อาจจะถือได้ว่าเป็นเครื่องที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานเครื่อง รุ่นเดิมอย่าง Bold 9000 และ Curve 8900 ที่นำจุดเด่นที่ผู้บริโภคเรียก ร้องมารวมกันไว้ในเครื่องรุ่นนี้ ซึ่งแทบไม่มีการพัฒนาในส่วนของ ฟีเจอร์ภายในเท่าใดนัก เพราะเรียกได้ว่านำ 2 ตัวมารวมกันก็ครบเครื่องอยู่แล้

ผู้ที่เคยใช้ Bold 9000 หลายคนจะมองว่าตัวเครื่องมีขนาด ใหญ่ ทำให้พกพาไม่สะดวก รวมไปถึงกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลชซึ่งคุณภาพไม่ค่อยดีนัก แต่ในเรื่องการเชื่อมต่อและฟีเจอร์อย่างอื่นถือว่าครบครันไม่ว่า จะเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อ 3G Wi-Fi GPS บลูทูธ ตามปกติของสมาร์ทโฟน

ในขณะที่ผู้ที่ใช้ Curve 8900 ที่มีจุดเด่นที่ตัวเครื่องขนาด เล็กพกพาสะดวก กล้อง 3.2 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช แต่ยังไม่รองรับการเชื่อมต่อ 3G ดังนั้นเมื่อนำเครื่องทั้ง 2 รุ่นมาผสานกัน Bold 9700 จึงถือเป็นเครื่องที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการสมาร์ท โฟนครบๆในเครื่องเดียวนั้นเอง

Feature On Blackberry Bold 9700

เป็นที่รู้ กันอยู่แล้วว่า ระบบปฏิบัติการในแต่ละรุ่นของแบล็กเบอรีนั้น ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ดังนั้นจุดเด่นในเรื่องของการรับส่งอีเมล แชต และการเข้าใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ จึงยังเป็นจุดเด่นของแบล็กเบอรีในประเทศไทย อยู่เช่นเดิม

โดยเครื่องที่ได้รับมาทดลองใช้งานนี้ ได้ทำการอัปเกรดเฟิร์มแวร์เป็น 9700 EastAsia เวอร์ชัน 5.1.0.116 (423) ซึ่งรองรับการใช้งานภาษาไทยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันได้มีเฟิร์มแวร์ รุ่นที่ใหม่กว่านี้ออกมาให้ดาวน์โหลดเพื่อใช้งานแล้ว ผู้ใช้ท่านใดสนใจก็สามารถหาดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ผู้ให้บริการ ของท่าน



หน้าจอหลักที่เห็นๆ กันเวลาใช้งาน นอกจากนาฬิกาที่เป็นภาพพักหน้าจอแล้ว ก็คือหน้าจอตามสไตล์เดิมคือ ในแถวบนจะมีบอกสถานะแบตเตอรี โปรไฟล์ที่ใช้ จำนวนข้อความ-อีเมลที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน ส่วนกลางแถบบนมีบอกเครือข่ายที่ใช้งาน เวลา วัน เดือน ปี ส่วนมุมขวาบอกถึงลักษณะการเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็น EDGE Wi-Fi และ บลูทูธ



แถบล่างคือช็อตคัทเมนู 6 เมนูที่ผู้ใช้สามารถเลื่อนเปลี่ยนได้จากหน้าจอเมนูแบบปกติ โดยเมื่อกดเข้ามาในหน้าจอเมนูหลัก สามารถกดเพื่อเลือกคำสั่ง Move ที่หน้าจอจะมีโฟลเดอร์ขึ้นมาให้เลือกว่าจะ เลื่อนไปที่โฟลเดอร์ตามต้องการ หลังจากนั้นก้สามารถที่จะเลื่อนตำแหน่ง แอปฯ ต่างๆ ได้ทันที



ซึ่งตามหลักแล้วโฟลเดอร์ที่มากับ เครื่องจะประกอบไปด้วย Media ที่เป็นแอปฯเกี่ยวกับมัลติมีเดียทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น เครื่องเล่นเพลง วิดีโอ ดูรูปภาพ เสียงเรียกเข้า บันทึกเสียง ถ่ายวิดีโอ และอัดเสียง ในส่วนของ Instant Messaging นอกจาก Yahoo และ Google Talk แล้วก็ประกอบด้วยพวก MSN และ BlackBerry Messenger นั่นเอง เพียงแต่ในรูปได้ทำการย้าย 2 แอปฯ หลังออกไปไว้ด้านนอกทำให้ไม่ขึ้นโชว์ ในนี้

Applications ที่มากับเครื่องก็จะเป็นพวก สมุดจดบันทึก เครื่องคิดเลข โปรแกรมอ่านไฟล์เอกสาร Word Excel PowerPoint ตัวจัดการไฟล์ ตั้งค่าโทรฯด้วยเสียง และ แอปฯสำหรับแบคอับข้อความสั้น ถัดมาในส่วน Download คือส่วนของแอปฯที่ผู้ใช้งานหาดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นจากเว็บไซต์ปกติ หรือ BlackBerry App World ก็ตาม

โฟลเดอร์ Games เป็นที่อยู่ของเกมที่มีมาให้พร้อมกับเฟิร์มแวร์ ซึ่งแน่นอนว่าสา มารถหาดาวนโหลดเพิ่มได้ สุดท้ายคือส่วนของ Setup ที่มีไว้ช่วยสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งใช้งานเป็นครั้งแรกในการตั้งค่า การเชื่อมต่อ ตั้งค่าอีเมล และบลูทูธนั่นเอง



ในส่วนของโปรไฟล์เสียง มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 7 แบบ คือ เสียงปกติ เสียงดัง เสียงปานกลาง สั่นอย่างเดียว ปิดเสียง เฉพาะเสียงโทรศัพท์ และ ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปตั้งเสียงเฉพาะสำหรับรายชื่อผู้ติดต่อ นี้โดยเฉพาะได้อีกด้วย



ต่อมาเรื่องของการตั้งค่าการ เชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็น เปิดการเชื่อมต่อทั้งหมด เลือกเปิดเฉพาะอย่างโทรศัพท์ Wi-Fi และบลูทูธ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งานในส่วนของ Data Services ให้มีการเชื่อมต่อหรือไม่ เลือกรูปแบบเครือข่ายที่ใช้งาน 3G หรือ 2G เนื่องจากในเครื่องรุ่นนี้รองรับ 3G นั่นเอง การใช้งาน Wi-Fi สามารถเลือกจุดเชื่อมต่อกรอกรหัสเพื่อเข้าใช้งานได้แบบง่ายๆ เช่นเดียวกัน



เมื่อกดปุ่มตัวเลขในหน้าจอปกติ ถือเป็นการเข้าสู่โหมดโทรศัพท์ในทันที โดยในหน้าจอนี้ยังสามารถใช้ใน การค้นหารายชื่อผู้ติดต่อในเครื่องได้อีกด้วย ขณะที่หน้าจอโทรศัพท์ขณะสนทนา จะมีหมายเลขโทรศัพท์ ชื่อผู้ติดต่อขึ้นอยู่ รวมถึงความดังของลำโพงสนทนาในขณะนั้น นอกจากนี้ยังมีการแสดงแถบ สถานะที่เปลี่ยจากด้านบนในหน้าจอหลักมาอยู่ด้านหลังในหน้าจอดัง กล่าว



มาถึงจุดเด่นสำคัญคือระบบ Push Mail ที่ช่วยให้นักธุรกิจ สามารถเข้าถึงและใช้งานอีเมลต่างๆได้ แบบทันทีทันใด ซึ่งด้วยความที่หน้าตาการใช้งานเป็นแบบเรียบง่าย ทำให้สามารถเข้าถึงอีเมลต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน ยังสามารถใช้เพื่อ ตอบกลับ ส่งต่อ โพสเข้าเฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ ฯลฯ ได้อีกด้วย

ส่วนกรณีที่เป็นอีเมลที่มีไฟล์แนบ ก็สามารถกดเข้าไปเพื่อเลือกโหลดไฟล์แนบเฉพาะที่ต้องการได้อีกด้วย ที่สำคัญคือตัวเครื่องเอง ก็รองรับการใช้งานไฟล์เอกสารที่ส่วนใหญ่ใช้ กันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาในการอ่านไฟล์งานต่างๆ นอกสถานที่ทำงาน



BlackBerry Messenger หรือ BBM ที่เป็นจุดขายสำคัญของแบล็กเบอรีในบ้านเรานั้น ถ้ามองเผินๆ ก็ไม่แตกต่างจากโปรแกรมแชตทั่วไป เพียงแต่ปรับเปลี่ยจากการแอดอีเม ล มาเป็นแอดพินของเครื่องแทน ซึ่งในการแอดพินก็ทำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ใส่ปกต สแกนในรูปแบบ QRcode หรือส่งข้อความสั้ยไปให้อีกเครื่องหนึ่ง

นอกจากนี้คือการที่โปรแกรมแชต สามารถออนไลน์ได้ตลอด เวลาจากการเปิดใช้งาน BIS ในหลายๆรูปแบบที่มีในปัจจุบัน ซึ่งด้วยความสามารถตรงนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถแชตได้ตลอดเวลาที่เปิด เครื่องนั่นเอง หน้าตาโปรแกรมการใช้งานก็เหมือนกับโปรแกรมแชตทั่วๆไป

โดยนอกจากการสนทนาแบบ text ทั่วไปแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถส่งข้อความเสียง หรือ ส่งที่อยู่จากระบบระบุพิกัด GPS ส่งรูป ส่งไฟล์ ผ่าน BBM ได้ทันที จึงทำให้ได้รับความนิยม อย่างมากมายในปัจจุบันนี้ แต่ถึงกระนั้นปัจจุบันเริ่มมีแอปฯ อื่นที่ทำได้ลักษณะคล้ายกันขึ้นมาแล้วเช่น Palringo ที่สามารถใช้ได้บนทุกแพลตฟอร์ม (ปัจจุบันยังไม่สามารถใช้กับ FW เวอร์ชัน 5 ของ BB ได้)



ถัดมาในส่วนของเครือ ข่ายสังคมออนไลน์อย่าง "เฟสบุ๊ก" ที่มีแอปฯเฉพาะสำหรับใช้งาน โดยหน้าตาคล้ายๆ กับการใช้งานแบบปกติ มีการแบ่งสัดส่วนชัดเจน ไล่ตั้งแต่หน้าแรกที่ดึงฟีดทั้งหมดมาแสดง รวมไปถึงควิสต่างๆ ด้วย ต่อมาเป็น หน้าการแจ้งเตือน อัปโหลดรูปภาพ

รายชื่อเพื่อนทั้งหมด ในกรณีที่มีเบอร์โทรศัพท์ สามารถสั่งโทรฯได้ทันที หน้าจอเพิ่มเพื่อน โพสต์ข้อความไปที่กระดานข้อความ และส่งข้อความให้กับเพื่อน โดยการทำงานของเฟสบุ๊กจะผูกเข้ากับอีเมล ที่ผู้ใช้ลงทะเบียนไว้ในการส่งอีเมลแจ้งเตือนสถานะต่างๆ ดังนั้นการที่ผู้ใช้แบล็กเบอรี รับรู้ว่ามีคนมาโพสต์ข้อความ ก็มาจากการแจ้งเตือนในอีเมลนั่นเอง



สุดท้ายคือแอปฯ สำหรับชาวทวิตเตอร์อย่าง "UberTwitter" ที่ผู้ใช้แบล็กเบอรีส่วนใหญ่ชื่นชอบกัน เนื่องมาจากผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ม ีการอัปเดทข้อความต่างๆได้ รวมไปถึงเมื่อมีข้อความเข้ามา สามารถตอบกลับ ส่งข้อความถึงคนที่ทวิต รีทวิต ได้ทันที

นอกจากนี้แอปฯ ดังกล่าวยังได้ทำการผูกเข้ากับโปรแกรม แจ้งเตือนของแบล็กเบอรี ทำให้ผู้ใช้สามารถรับรู้ได้ว่ามีข้อความใหม่ๆ ให้เข้าไปตามอ่านกัน ดังนั้นผู้ที่มีแบล็กเบอรีและใช้งานทวิตเตอร์อยู่ แล้วจึงไม่ควรพลาดแอปฯดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโปรแกรมไม่ได้มีติดมาในเครื่องผู้ใช้จึงจำเป็นต้องไปดาวน์ โหลดจากเว็บไซต์
ubertwitter

Design of Blackberry Bold 9700



เรื่องของหน้าตา คงไม่ต้องบอกกันมาว่าเป็นอย่างไร เพราะคนทั่วไปเพียงมองผ่านๆ เห็นคีย์บอร์ดแบบเม็ดข้าวโพดเรียงกันเป็นแถวๆ ก็เป็นที่รู้กันว่าเครื่องนี้มันแบล็กเบอรี แต่จุดที่น่าสนใจในเครื่องรุ่นนี้คือเปลี่ยนแปลงความเป็น Bold จากเดิมที่มีขนาดใหญ่ลงมาใกล้เคียงกับ Curve 8900 เป็นอย่างมาก โดยมีขนาดรอบตัวอยู่ที่ 109 x 60 x 14.1 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 122 กรัม

นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ที่ใกล้เคียงกันคือมีขอบสีเงิน ตัดรอบตัวยิ่งทำให้ ความรู้สึกแทบไม่ต่างกจากเดิมมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของแบล็กเบอรีอยู่ดี ทั้งนี้ความรู้สึกที่ได้สัมผัสต้องยอมรับว่าการประกอบเครื่องและ วัสดุ ถือว่าดีกว่า Cruve 8520 สมกับราคาที่แพงกว่าด้วยเช่นเดียวกัน



ทีนี้มาไล่กันที่ละส่วนเริ่มกันจาก ด้าน หน้า - ขอบบนมีลักษณะเป็นแนวโค้งตัดลงไปด้านบน ทำให้ตัวเครื่องดูโค้งมนมีมิติ ตรงกลางเป็นที่อยู่ของลำโพงสนทนาวางพาด เป็นตะแกรงแนวยาวอยู่ เยื้องมาทางขวาเล็กน้อยมีไฟแสดงสถานะ และตรวจจับความสว่างหน้าจอ ลงมาอีกแถวหนึ่งตรงกลางมีโลโก้และตรา "BlackBerry" ติดอยู่



ส่วนขนาดหน้าจออยู่ที่ 2.44 นิ้ว ความละเอียด 480 x 360 พิกเซล ซึ่งถือว่ามีการแสดงผลชัดเจนสวยงาม ถัดลงมาเป็นที่อยู่ของปุ่มควบคุมแนวเดียวกับในรุ่น Curve 8520 ที่ประกอบไปด้วยปุ่มโทรฯออก ปุ่มเมนู แทร็กแพด ปุ่มย้อนกลับ และปุ่มวางสาย



ถัดลงมาในส่วนของคีย์บอร์ด เนื่องจากเครื่องที่ได้มาทดสอบนั้นยังไม่มีการสกรีนภาษาไทย แต่ทางทีมงานก็ได้ภาพล่าสุดมาให้ผู้อ่านได้เห็นกันชัดๆว่า เครื่องที่วางจำหน่ายผ่านโอเปอเรเตอร์อย่างเป็นทางการมีเลย์เอาท์ คีย์บอร์ดภาษาไทยอย่างไร

ซึ่งในแง่ของการใช้งาน เนื่องจากปุ่มคีย์บอร์ดมีลักษณะ ติดกันเป็นแนวทั้งหมด ไม่ได้เว้นช่องไฟเช่นเดียวกับในรุ่น Curve 8520 ก่อนหน้านี้ ทำให้ในการพิมพ์ให้ความรู้สึก ไม่ค่อยชินเล็กน้อย จากการที่แป้นคีย์บอร์ดติดกันเป็นพรืด แต่หลังจากใช้งานได้สักระยะหนึ่ง เมื่อนิ้วคุ้นชินแล้วการใช้งานก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด



พลิกมาดูกันที่ด้านหลัง - เครื่องรุ่นนี้บริเวณพื้นผิวด้านหลังมีการใส่ลูกเล่น ลวดลายพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นแถบเงินในส่วนบน ถัดลงมานิดนึงเป็นแถบพลาสติกคุณภาพสูง เช่นเดียวกับตัวเครื่อง โดยมี กล้องความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซลอยู่ทางซ้าย ตรงกลางมีตัวอักษรบอกชื่อรุ่น "Bold" ทางขวามีแฟลช LED ติดอยู่ ในส่วนของฝาหลัง ที่ทำจากพลาสติก ผสมกับแผ่นหนังอยู่ตรงกลางเพิ่มความ หรูหราด้วยสัญลักษณ์แบล็กเบอรีสีเงิน ฝาหลังสามารถเปิดออกได้โดย การเลื่อนลงข้างล่าง



เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับแบตเตอรี Li-ion ขนาด 1,500 mAh ใต้แบตฯ มีช่องใส่ซิมการ์ดอยู่บริเวณกลาง เครื่อง ส่วนช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ดจะอยู่บริเวณบนใกล้ๆ กับตัวอักษร "Bold" ซึ่งลักษณะการใส่จะเป็นแบบเฉียงประมาณ 45 องศาลงไปในตัวเครื่อง




ด้านซ้าย - ไล่จากส่วนบน มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. พอร์ตไมโครยูเอสบีสำหรับเชื่อมต่อกับพี ซีและเสียบชาร์จ ปุ่มสำหรับใช้งานคำสั่งเสียง (สามารถตั้งเปลี่ยนได้) และรูร้อยสายคล้องโทรศัพท์ ด้านขวา - มีปุ่มปรับระดับเสียง และ ปุ่มลัดสำหรับเข้าโหมดกล้อง และเป็นชัตเตอร์ 2 จังหวะด้วย




ด้านบน - มีปุ่มสำหรับล็อกเครื่อง และปุ่มคำสั่งปิดเสียง (กดค้างสำหรับเข้าสู่สแตน บายโหมด) ด้านล่าง - มีช่องไมโครโฟนสนทนาเท่านั้น

บทสรุป

ต้อง ยอมรับกันว่าแบล็กเบอรี Bold 9700 ถือว่าเป็นเครื่องที่ทางอาร์ไอ เอ็ม ผลิตออกมาเพื่อผู้บริโภคอย่างจริงจัง เนื่องมาจาก มาตรฐานการพัฒนาของอาร์ไอเอ็ม นั้นคือรับฟังเสียงผู้บริโภค ซึ่งคงจะได้ฟีดแบคจากผู้ใช้งานในรุ่น Bold 9000 และ Curve 8900 มาพอสมควร จึงทำให้ออกมาเป็น Bold 9700 ในทุกวันนี้

ด้วยความสามารถที่ไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก แต่มีดีไซน์ที่เล็กกระทัดรัดกว่า Bold 9000 ทำให้เครื่องรุ่นนี้สามารถเข้ามาเจาะกลุ่มผู้ใช้งานได้ทุกเพศทุก วัย รวมไปถึงกลุ่มผู้ใช้งาน Curve 8900 เองก็ตาม ที่หันมาใช้งานก็เป็นเพราะมีฟีเจอร์ และฟังก์ชันบางอย่างเพิ่มเข้ามา

การรองรับการเชื่อมต่อ 3G ในคลื่นความถี่ 800/850/1900/2100 MHz รวมกับ Wi-Fi บลูทูธ และ GPS ถือว่าเครื่องรุ่นนี้ให้การเชื่อมต่อที่ครบครันเพียงพอต่อการใช้ งานแล้ว แม้ว่าจะยังไม่สามารถใช้งาน 3G ผ่าน BIS ในบ้านเราได้ก็ตาม

ด้านมัลติมีเดียมีจุดที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับรุ่น Bold 9000 คือเรื่องของกล้องที่เพิ่มมาเป็น 3.2 ล้านพิกเซล ที่ให้ภาพคมชัดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าผู้ใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ค่อน ข้างจะชอบกัน เนื่องจากสามารถถ่ายรูปและอัปขึ้นเฟสบุ๊กได้ทันที นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่วยให้สามารถใช้ฟังเพลง ดูคลิปวิดีโอได้สะดวกยิ่งขึ้น

ในเรื่องของเสียงสนทนา ถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เสียงไม่เบาจนเกินไป แต่ที่ชอบคือเรื่องของเวลาการใช้งาน แม้ว่าจะมีการใช้เพื่อแชต หรือรับ-ส่ง อีเมลค่อนข้างบ่อย ก็สามารถใช้งานได้ 2-3 วันสบายๆ ไม่ต้องคอยกังวล ว่าแแบตฯจะหมดระหว่างวันเหมือนใน เครื่องรุ่นก่อนหน้านี้

ทิ้งท้ายไว้นิดนึงว่าการใช้งานแบล็กเบอรีนั้น จำเป็นที่จะต้องเปิดใช้งาน BIS ไปด้วย เพื่อให้ตัวเครื่องสามารถใช้งาน ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นถ้าผู้ใช้สามารถที่จะจ่ายค่าบริการใน ส่วนดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นแพคเกจ 300 - 350 หรือ 650 ก็ถือว่าซื้อแบล็กเบอรีมาใช้แบบไม่เสียหาย

ขอชม
- มีการพัฒนาตัวเครื่องให้เข้าถึงผู้บริโภคในทุกกลุ่มมากขึ้น เช่น ตัวเครื่องขนาดเล็ก กล้องความละเอียดมากขึ้น
- ระบบปฏิบัติการของแบล็กเบอรี ที่ทำออกมาค่อนข้างครบ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย
- แบตเตอรีอึดมาก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้

ขอติ
- ด้วยความที่หน้าจอมีขนาดเล็ก และข้อจำกัดของเบราว์เซอร์ ทำให้การท่องเน็ตยังสู่สมาร์ทโฟนคู่แข่งไม่ได้
- ไม่มีกล้องวิดีโอคอล
- ฟีเจอร์อย่าง วิทยุ FM TV-Out Accelerometer และเข็มทิศดิจิตอล ไม่ได้ถูกใส่มาด้วย

No comments: