Google
 

Monday, May 10, 2010

ตะรุเตา-อาดังราวี-หลีเป๊ะ ... หาดสวรรค์หมู่เกาะทะเลใต้ : The Dive of Andaman

เมื่อมีคำถาม ถามให้ ลองตอบ ว่าชอบภูเขาหรือทะเล?
ไม่ยากใช่มั้ย ถ้าใครจะตอบ สิ่งที่ชอบรู้อยู่แก่ใจ
ทะเล แสนงาม ยิ่งในยามที่มีสายลม
แดดงาม จะแต้มตามไรผม ชอบสายลมพัดเส้นผมเธอ ปลิว

ภูเขาหรือ ทะเล / ศุ บุญเลี้ยง

ตะรุเตา อาดังราวี หลีเป๊ะ ... หาดสวรรค์หมู่เกาะทะเลใต้

Aloha summerมาแล้วครับตามกระแสเรียกร้อง แต่ว่า งานนี้อาจจะแหวกแนวหรือมาผิดแนว ไปเสียหน่อย ไม่ได้เป๋หรือต้องการจะเปลี่ยนใจจากภูเขาและป่าไม้เท่าไรด อก เพียงครั้งนี้มันตึ๊บและตีบตันเกินไปที่จะหาเทือกเขาเพื่อเข้าป่า ตามสไตล์ฟายดิบที่เคยเป็นมา ดังนั้นทริปนี้ภาพที่ออกมาสู่สายตา ชาวเพื่อนและมิตรรักแฟนรายการ แหกตาพาเที่ยว จึงดูขัดสายตาไปบ้าง เอาน่า ช่วงร้อนหยั่งงี้ก้อขอพักผ่อนแบบชิลด์ ชิลด์บ้าง ใครมันจะบ้าขึ้นเขาหยั่งเดียวล่ะพี่น้อง แต่อย่างไรก็ตามอยากจะขอบคุณมิตรรักคอลิเกทั้งหลายที่ยังติดตาม และถามถึงว่าเมื่อไหร่จะปล่อยภาพชุดตะลุยล่องทะเลสตูลออกมาสักที ... ก้อจะบอกว่า รอหน่อยเด้ มันยังไม่ได้โหลดเลย เพราะช่วงนี้งานมีแต่เข้า ไม่มีออกมาเป็นผลงานสักอย่าง ยังงัยหาเวลาโหลดให้แล้วนะ พร้อมสกู๊ปร้อนๆ เข้ากับบรรยากาศในเมืองกรุงที่อุณหภูมิ สูงเกินขีดบนของเทอร์โมมิเตอร์ไปแล้ว

เอาล่ะ เข้าเรื่องครับ ... ทริปนี้ทีมงานมหาชนของกระผมเปลี่ยน แนวมาลงใต้ โดยตั้งใจจะไปลุยกันที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ที่มีจุดหมายของการพักแรมบนเกาะอาดังและหลีเป๊ะ ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดที่วางไว้ตามโปรแกรมนั้นก็คือ การดำน้ำ ดำไปเรื่อยๆ แล้วก้อดำน้ำอีกในวันต่อๆ ไป มันส์บ่ะล่ะฮึ่ม! สนุกและก็ได้ภาพแจ่มคั่กคั่กมาพอสมควร แต่ก็ต้องแลกด้วยโรคร้ายที่ตามมาอันเป็นผลทำให้ผืนแผ่นหน้าอันบอบ บางกลับเละเทะเต็มไปด้วยสิว (นี่ถ้ามีฝ้าขึ้นด้วย วัยรุ่นหยั่งเราจะเซ็งมากเรย) ... ไปต่อครับ ทริปนี้มีสมาชิกร่วมอุดมการณ์ทั้งสิ้น 15 คน โดยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดทริปเป็นระยะเวลา 4 วัน 5 คืน ทั้งอลอวนและอลเวงบนรถ รวมถึงยังขึ้นไปเหวงตามเกาะแก่งต่างๆ แทบจะไม่น่าเชื่อเลยครับ กับคนที่ไม่ค่อยได้มาทะเลอย่างผม เพราะมักจะคิดว่าทะเลมีแต่ฟ้ากับน้ำ พอฝนตกก้อหมดอารมณ์ แต่เมื่อมาเห็นไอ้ที่สวยจริง ถึงกับร้องอื้อหือ อึ้งกิมกี่ในความสวยของชายหาด ความใสของน้ำ ความตื่นตาของปะการังดั่งราวกับว่า เป็นอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว โลกที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนและชีวิตข้างใต้ ผืนน้ำแห่งนี้ก็ไม่ได้สงบนิ่งเหมือนกระแสคลื่นเลย แต่ดูวุ่นวายหลากหลายสีสันและสับสนอลหม่านทั้งปลาทั้งคน จนใจจะพูดสื่อความหมายได้จริงๆ ครับ เอาเป็นว่า ดูอีเมลนี้รับรองว่า เต็มอรรถรสแน่แน่ เพื่อให้สมกับที่รอคอยมานานทีเดียว

รายละเอียดการเดินทาง

จุดหมาย : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล

วันและเวลา : 3 6 เมษายน 2553 (เดินทางคืนวันที่ 2, ถึงกทม. เช้าวันที่ 7) รวม 4 วัน 5 คืน

ที่พัก : เกาะอา ดัง (เต๊นท์) 2 คืน และเกาะหลีเป๊ะ (รีสอร์ท) 1 คืน

สถานที่ท่องเที่ยว : เกาะตะ รุเตา เกาะไข่ เกาะอาดัง เกาะรอกลอย เกาะผึ้ง เกาะหินซ้อน เกาะราวี เกาะหินงาม เกาะหลีเป๊ะ ร่องน้ำจาบัง ร่องน้ำหินซ้อน

จำนวนสมาชิก : 15 คน

ค่าใช้จ่าย : 4500 ต่อคน ... แพ็กเกจปกติ

4800 ต่อคน แพ็กเกจ สำหรับคนติดดีกรี

ขอขอบคุณ : บอลลี่ (TICON #253) ผู้อุปถัมภ์รายการ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลการเดินทาง เรือเร็ว และที่พัก มิเช่นนั้นทริปนี้คงแย่ครับ

Special thanks to “Superball” for further information about how to go and where to live in the heaven of south sea islands, Satun.

ที่นี่ ... เกาะไข่

ก่อนอื่นต้องเรียนทุกท่านก่อนว่า เกาะไข่ในที่นี้มีลักษณะเป็น คำนาม (Noun) นะครับ มิใช่ กริยา (Verb) อย่าต๊องนะคร๊าบ ... เอาล่ะ ที่นี่ทางผ่านของ Speed boat ที่มาจากปากบารา อ.ละงู เมื่อเรือแล่นออกจากท่าจะ ไปจอดเทียบยังตะรุเตาเกาะใหญ่ ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ หลังจากนั้นจึงจะแล่นไปจอดยังเกาะไข่ ซึ่งปกติเขาจะไม่เทียบท่าที่เกาะ นี้ เพราะที่นี่ไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่ฤดูนี้ หยั่งว่าครับ ผู้ให้บริการเรือ เจ๊อาบีบ๊ะ (ถูกมั๊ยวะบอล) แกบอกว่าเห็นนักท่องเที่ยวร่ำร้องกันนัก ก้อเรยจัดไป เพราะเกาะไข่แห่งนี้คือ สัญลักษณ์ของตะรุเตา ก้อจะอะไรเสียอีก ถ้าไม่ใช่ซุ้มโค้งของหินทะลุ แต่แหมเจ็บใจจ๊อด เพราะไอ้พวกทัวร์มันดันพา คนมาซะเยอะเลย แถมไอ้บ้าไกด์ก้อดันบอกให้นักท่องเที่ยวเอาข้าวห่อไปกิน บริเวณซุ้มอีกด้วย เล่นเอาคนที่ยืนรอถ่ายรูปธรรมชาติโดยปราศจาก หัวคนอย่างเราเซงไปตามๆ กัน ... ในใจก้อคิดอ่ะว่า ไอ้พวกทัวร์อีกแล้วนะมึง นอกจากจะอึกทึกแล้วยังไม่รักษาความสะอาดและสภาพแวดล้อมอีกด้วย เนี่ย ผมถึงไม่ไปไหนกับทัวร์ ซึ่งถึงแม้เขาจะคอยดูแลมิให้เกิดขยะและ มลพิษ แต่ด้วยจำนวนครับ ปริมาณหรือจำนวนนักท่องเที่ยวนั่นเองที่ทำลาย ธรรมชาติ เพราะฉะนั้น อย่านะครับ ถ้ายังอยากให้ลูกหลานได้มาเห็นเหมือน เรา อย่าได้ทำลายธรรมชาติและโปรดระมัดระวังพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อ การก่อให้เกิดมลพิษ นั่นจะช่วยบรรเทาความเสียหายได้ในเบื้องต้นครับ

ไปเหวงกันต่อ ... ที่รอกลอย

ทีแรกอ่านชื่อเกาะแล้วพยายามเชื่อว่ามันต้องอ่านออกเสียงว่า รอก-ลอย ไม่ใช่ รอ-กลอย เหมือนที่ไอ้ฝรั่งหัวแดงที่ยืนอ ยู่ข้างๆ สะกดออกมาเป็นแน่แท้ เพราะชื่อเกาะนี้คงไม่มีอะไรสัมพันธ์ หรือบังเอิญคล้องกับ ยัยกลอย ที่เป็นชื่อคนหรอกนะ มิเช่นนั้นคงจะสบถว่า ฮ่วย แรงๆ (ต่อไปนี้ในอีเมล คำว่าแรง จะเปลี่ยนเป็น เร็ง เพื่อให้เหมาะสมกับการเดินทางท่องเที่ยวภาคใต้ครับ)

เกาะรอกลอย เป็นที่แรกที่เรือ วีระชน แห่งท้องทะเลลึก นำโดยกะปิตัน (captain) พี่แกชื่อเสียด แกพาพวกเรามายังที่นี่ ซึ่งจะพลาดไม่ได้เลย เรียกว่า “Must go” และเป็น หนึ่งในท่าบังคับในรายการที่ระบุไว้จริงๆ ขอแนะนำครับ ว่าที่นี่ เกาะนี้เป็นอีกเกาะหนึ่งที่มีความ สุดตีน มากมาย ทั้งน้ำใสแจ๋วแหวว แม้จะไม่ค่อยมีปลาเท่าไรนัก แต่ธรรมชาติโดยรวมก้อเรียกได้ว่า แค่ได้เห็นและมาเยือนเกาะนี้ก้อไม่ เสียดายตังค์แล้วครับ เพราะนี่แค่เกาะแรกแต่งามหยดย้อยหยาดเยิ้มนภาลัย เช่นนี้ ยากที่จะปฏิเสธลงครับ และผมมั่นใจอีกด้วยว่า สายตาผมไม่โกซิกแน่นอนครับ ทั้งบนบก ในน้ำ และชายหาด โดยเฉพาะสาวๆ ที่ใส่บิกินี่นะ เห็นแล้วต้องร้องเพลง โอ๊ย โอ๊ย ของทาทา ยัง ทาถูแอนด์ทาถู พอมาตอนเนี่ยแทบจะไม่อยากเข้าป่าอีก เลยพับผ่าซี่

เอา ล่ะครับ หลังจากที่ไปรอ ยัยกลอย (รอกลอย) แต่ยัยกลอยดันไม่มา เราจึงไปต่อกันที่จุดดำน้ำ อีกแห่ง นั่นก็คือ ที่เกาะผึ้ง แต่เนื่องจาก ที่เกาะผึ้งเป็น Diving spot ที่ไม่มีหาดทรายให้ขึ้นไปถ่ายรูปได้ จึงมีแต่ภาพโลกใต้น้ำ section นี้จึงขอผ่านนะครับ เพื่อนๆ ที่ต้องการดูภาพเกาะผึ้งโปรดเข้าอีกอีเมลหนึ่งใน เปิดโลกใต้ทะเลสตูล : The underwater world” ที่ส่งมาพร้อมๆ กันนี้ครับ ณ โอกาสนี้จึงให้ยลภาพแทนไปพลางๆ ก่อน

วิถีแห่งอันดามัน

โหแม่จ๋า ตั้งชื่อซะเท่ห์เชียว ... วิถีแห่งอันดามันนี้ที่พวกเราอยู่กัน วันทั้งวันจะมีแต่ ร.เรือ ล.ลิง และเกาะน้อย-ใหญ่ นั่นก็คือ ระหว่างดำน้ำซึ่งจะใช้เวลาทั้งวัน ชีวิตของพวกเราจะอยู่ในเรือที่ต้องเดินทางไปตามจุดดำน้ำต่างๆ ที่คนเรือพาไป ซึ่งการดำน้ำ รอบใหญ่ นี้จะมีจุดดำน้ำทั้งสิ้น 4 จุด อันได้แก่ จุดซ้อมที่เกาะรอกลอย ดำน้ำหน้าผาใต้ทะเลที่เกาะผึ้ง ต่อไปยังเกาะหินซ้อน และร่องน้ำหินซ้อนอันเป็นที่สุดท้ายของโรงลิเกในวันนี้ ... พอถึงตรงนี้ เพื่อนๆ หลายคนชักทำตัวเหมือนเจ้า ฉงน เพื่อนเจ้าขุนทองแล้วใช่ไหมล่ะ เพราะว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วพวกมึงแดกกันยังงัย ก้อตอบง่ายๆ ครับว่า แดกลิง! อ่ะจ๊าก ... พวกเราจะทำข้าวห่อซึ่งต้องตื่นมาทำตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ จากนั้นกินข้าวเช้าแล้วไปดำน้ำ ระหว่างนั้นพวกเราก้อจะเอาข้าวห่อเก็บ ไว้ในภาชนะที่ Sealed กันน้ำ เมื่อถึงเวลาเที่ยง บ่าย พี่เสียด กะปิตันเรือก้อจะพาพวเราขึ้นไปยังเกาะใกล้ๆ ซึ่งบางแห่งจะเป็นเกาะ โนเนม ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ แต่อย่างไรก้อตาม มื้อกลางวันของพวกเราจะเป็นมื้อที่สั้นและรวดเร็ว เพราะว่าเพื่อนลิงแสมเจ้าถิ่นจะแห่กันเข้ามาเก็บค่าต๋งและค่าที่ ดังนั้นจึงต้องรีบครับ ... 5 5 เว่อร์ไปบ้างแต่ไม่เหวงครับ อันที่จิงที่ถูกคือ ขึ้นเกาะเพื่อไปกินข้าวกลางวันจริงๆ และก้อไปเจอลิงแสม แต่เขาไม่ได้ทำร้ายเราหรอก และมากันแค่ 3-4 ตัวเท่านั้นเอง ถ้าเพื่อนๆ เห็นอย่างนี้แล้ว เวลากินข้าวก้อเหลือเศษๆ หรือพกของเซ่นไหว้เจ้าที่ไว้ให้เขาซักหน่อย ก้อดีครับ เพื่อนร่วมโลกด้วยกันทั้งนั้น โดยเมื่อเรากินข้าวเสร็จแล้วก้อถือ โอกาสเล่นน้ำครับ บ้างก้อนอนเอาแรงสบายใจอยู่บนหาด โลกนี้ช่างสวยดีจิงและมีแค่พวกเรา สุดยอดครับทริปนี้

THE SHADOW CLIFF

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดครับพี่-น้อง เพราะไม่ว่าเราจะเปลี่ยนสถานที่มาทะเลกันในทริปนี้ แต่เราก้อยังหาเรื่องเดินขึ้นเขากันจนได้ เพราะจากที่เราหาข้อมูลกันก่อนเดินทางมา ทำให้ทราบว่าที่นี่ ที่เกาะอาดังแห่งนี้จะมีหน้าผาสูงชันอยู่ที่หนึ่ง โดยหน้าผาจะหันเข้าหาทะเลฝั่งตรงข้ามเกาะหลีเป๊ะ เห็นวิวโดยรอบ ซึ่งเมื่อก่อนจะมีเสาสัญญาณไฟเพื่อให้ชาวเรือได้สังเกตแนวแผ่นดิน และร่องน้ำ ผาแห่งนี้ชื่อ ผาชะโด ผมจึงตั้งชื่อให้คล้องกับคำในภาษาอังกฤษว่า Shadow cliff คล้ายๆ กันให้มันออกเสียงเท่ห์ไปหยั่งงั้นเอง แต่จิงแล้วต้องอ่านชะโดในคำภาษาไทยจึงจะถูกต้องครับ

ผาชะโดจะใช้ระยะเวลาเดินขึ้นประมาณ 45 นาที (ฝันไปเถอะ) จิงแล้วเดินประมาณชั่วโมงนึงได้ครับ เพราะเขาจะแบ่งหน้าผาชมวิวไว้ 3 ระดับ ตั้งแต่ระดับแรก ระดับที่สอง และถึงจุดสุยอด! แต่เชื่อเหอะ ไหนไหนก้อไปแล้ว เดินขึ้นไปให้มันถึงจุดสุดยอดเถิด เพราะมุมมองจากข้างบนนั้น สุดยอดมั่ก ทั้งสูง ทั้งเสียว หวิวโคด แต่บรรยากาศดีมาก ผมและเพื่อนๆ พากันขึ้นมาได้ถึงชั้น 3 (ก้อคงประมาณซำแฮ่ก ภูกระดึง แต่น่าจะเอาเรื่องกว่า) แต่พอพระอาทิตย์ตกดิน ผมและเพื่อนอีก 3 คนยังนั่งที่ผานั้นต่อไปจนถึงประมาณทุ่มนึง เพื่อรอถ่ายแสงไฟบนเกาะหลีเป๊ะตอนกลางคืนเอามาฝากมหามิตรทั้งหลาย ครับ แทบจะไม่ต้องนึกถึงตอนลงเลยว่ามืดตึ๊บแค่ไหน และทางเดินรกมาก จิงๆ นรกอีกด้วยนะ เพราะขาลงหูเจ้ากรรมเสือกแว่วเหมือนมีผู้หญิงมาร้อง เพลงบริเวณหน้าผาชั้นที่สอง เล่นเอาแทบจะวิ่งลงเขากันไปเลย .... แม่มเอ๊ย เสียวดึ๋ง

บ่ายนี้ที่ราวี

เมื่อมีอาดัง ก็ต้องมีราวี แฝดแท้มาแต่เมื่อกำเนิดอาดัง จึงมีเกาะราวีขนาบข้างเหมือนมีฉันก็ต้อง ขาดเธอไม่ได้ เพราะฉะนี้จึงเรียก อาดังราวี เกาะแฝดที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ตั้งตระหง่านโดยมีร่องน้ำจาบังเป็น สิ่งกีดขวางเดียวที่กั้นระหว่างทั้งสองเกาะ ข้อแตกต่างเดียวที่ราวีมีเหนือเกาะอาดังนั่นก็คือ ชายหาดที่สวยงามและยาวกว่า อีกทั้งยังเป็นทรายละเอียดเหมือนเหยียบลงบน นุ่น แต่มีแนวปะการังน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแนวปะการังน้อยกว่า สิ่งชดเชยที่เกาะราวีมีให้นักท่องเที่ยวนั้นได้แก่ ฝูงปลาที่มีขนาดลำตัวค่อนข้างใหญ่โดยเข้ามาหลบในเขตแนวร่องน้ำ ตอนที่เอาหน้ามุดลงไปดูก็สยองอยู่เหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่ามันจะแดกกูด้วยมั๊ย แต่ไม่ทำอันตรายครับ หรืออาจจะไม่แน่ เอาเป็นว่าผู้หญิงถ้ามีทุกเดือนมาหาก้ออย่าลงน้ำเลย แล้วกัน เด๋วฉลามจะว่ายมาหา ส่วนคนทั่วไปทั้งชายและหญิงเวลาดำน้ำขอ อย่าให้มีแผลตามลำตัว แผลสด แผลเปื่อยหรือถลอกจนเลือดซิบ เพราะนั่นจะเป็นการกระตุ้นโสตประสาทในการรับกลิ่นคาวเลือดของปลา พวกนี้ อย่ามัวมองแต่ความสวยงามอย่างเดียวนะครับ เพราะนอกจากจะสวยงามแล้วปลาพวกนี้กินเนื้อล้วนๆ และไม่อยากจะบอกเลยว่าฟันคมมาก โดยเฉพาะไอ้เสือ หรือปลาเสือที่มีอยู่เป็นจำนวน มากและคุ้นกับคน แต่ถ้าลองเผลอล่ะก็มันจะเข้ามาตอดที่ละนิดจนแผลเปิดไป เลยทีเดียว ... รู้งี้เอาแหมาเหวี่ยงจับแดกแม่มให้หมดเรยคงดี ( 6 _ 6) …

MOUNTAIN RESORT – LIPE

ถ้ามาหลีเป๊ะ ก็อยากจะแนะนำต่ออีกทีครับว่า ให้มาพักที่ Mountain resort (ให้ออกเสียง เม้าเทิร์นไม่งั้นเจ้าของจะเคืองเอามากมาย) อาหารแพงที่รีสอร์ทนี่ไปนิดครับ ส่วนรสชาตอาหารก็สุดจะกาก แต่ประเด็นที่กล่าวมานั้นไม่สำคัญครับต่อการตัดสินใจเลือกที่พักบ นเกาะหลีเป๊ะแห่งนี้ เพราะว่าที่นี่คือสุดยอดของ ฮวงจุ้ยมังกร The golden location on hill เจ๋งครับ พี่-น้อง เพราะหน้ารีสอร์ทจะหันไปทางร่องน้ำหลีเป๊ะ-อาดัง เห็นแนวปะการังเป็นบริเวณกว้าง และน้ำที่นี่ใสมาก โดยเฉพาะยิ่งอยู่บนล๊อบบี้แล้วมองลงมาจากบนเนินเขานั่น เคล็ดแม่ม ... สวยไม่บันยะบันยังจิงๆ น้องนาง เกินกว่าเฟรมกล้องจะเก็บบรรยากาศมาได้ หมดอีกแล้วครับนายทั่น แม้กลางคืนจะร้อนไปนิด แต่ใครเล่าจะสนใจพะเหนียกกับเรื่องการนอน เพราะแค่มีที่ซุกก้อพอใจแล้ว เรามาเที่ยวนะไม่ได้มานอน! ดังนั้นเรื่อง ร้อนตัดไปได้ (จะว่าไปแล้วขนาดแก้ผ้านอนยังเหงื่อซิกเอาเหมือนกัน) ไม่ผิดหวังแน่นอนครับแม่เจ้า ปีหน้าผมว่าจะมาใหม่เหมือนกัน สัญญากับเพื่อนๆ ไว้ว่าจะจัดทริปมาหลีเป๊ะทุกๆ ปี ถ้ามีโอกาสนะครับ โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการเดินทางมามากที่สุดคือประมาณเดือนมีนาคม ต้นเดือนเมษายนนี้เอง เพราะทะเลจะสวยและใสมาก แต่พอเข้าช่วงหลังสงกรานต์ฝนจะเริ่มมีมาตกทุกวัน ดินฟ้าอากาศแปรปรวนง่าย นั่นก็เพราะใกล้จะหมดเวลาเที่ยวอันดามันแล้ว ล่ะครับ ท่องไว้นะพี่น้อง ฝน 8 แดด 4” ยังใช้อธิบายปรากฏการณ์ทาง ธรรมชาติของที่นี่ได้อยู่ครับ ... ในโอกาสนี้ก้อขอขอบคุณอีกครั้งกับ ซุปเปอร์บอล ที่แนะนำกันมา Mountain resort เห็นเชียร์จังเรย พอมาปุ๊ปก้อถูกใจ เอาเป็นว่า ปีหน้า ช่วงวันจักรีและถ้าชาติต้องการ เรามาเจอกันที่นี่นะครับเพื่อนๆ รับประกันความมันส์เต็มพิกัดตาม สไตล์ ท่อง เที่ยวอย่างดุดัน ความมันส์ถึงขีดสุด ... ไปดูบรรยากาศกันครับ

เมื่อมีคำถาม ถามกันบ่อยๆ ้องคอยตอบเธอเรื่อยไป
ว่าบนภูเขา หรือทะเลไกล ชอบที่ ไหน ชอบที่มีเธอ

จะบนภูเขาหรือทะเลไกล ชอบที่ ไหน ชอบที่มีเธอ ...

ภูเขา หรือทะเล / ศุ บุญเลี้ยง

ทริปนี้หลังจากกลับมาต้องบอกเลยว่า เสียหน้า ไปเล็กน้อย ไม่ใช่อะไรครับ คือทาครีมกันแดดแล้วมันแพ้ ปรากฏผื่นขึ้นหน้าเต็มเรย เซงจิง นี่ถ้าฝ้าขึ้นจะยิ่งกุ้มกันไปอีก ... แต่เอาครับ ได้ไปเห็นอะไรดีดีอีกสักที่หนึ่ง โดยเฉพาะทะเลที่ในชีวิตไม่ค่อยจะ อยากมาเท่าไหร่เพราะคิดว่ามีแต่น้ำกับฟ้า แต่ที่ไหนได้ ไปเจอไอ้ที่สวยๆ จึงช่วยทำให้เราเปิดโลกทัศน์ไปอีกด้านหนึ่ง ไหนไหนจะว่าไปแล้วก็อยากนับดูเลยว่าในชีวิตเคยไปทะเลที่ไหนมาบ้าง ซึ่งถ้าเป็นเกาะ เห็นจะเป็นที่เกาะช้าง ที่แรกที่เริ่มจับกลุ่มเที่ยวกับเพื่อนๆ ตั้งแต่เรียนมหาลัย อีกปีนึงก่อนเรียนจบก็มาเสม็ด หลังจากนั้นไม่ค่อยได้ไปไหน จริงแล้วไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ เพราะการเที่ยวทะ เลโดยเฉพาะไปตามเกาะต่างๆ เนี่ย มันเสียค่าใช้จ่ายแพงกว่าเที่ยวป่า หลายเท่าตัวนัก เรียกได้ว่า ไปทะเลทริปเดียวเดินป่าได้ตั้ง 3 รอบซะงั้น! อ้อ จำได้แล้ว...ในชีวิตนี้ก็ยังมีเกาะพะงัน ที่ไปลุยฟูลมูนปาร์ตี้บนหาดริ้นกับแจ็กกี้ มาริโอ้เมื่อสองปีก่อนนี้เอง นอกนั้นก็มีเกาะสีชังตอนไปเข้าค่ายสมัย มัธยม นั่นล่ะหมดแล้ว ส่วนที่อื่นๆ จะเป็นชายฝั่งทะเลเสียมากกว่าทั้งหัวหิน ชะอำ สัตหีบ บ้านเพ ทุ่งวัวแล่น บ้านกรูด ประมาณนี้

คงตอบคำถามได้แล้วนะครับว่า ภูเขา หรือ ทะเล ไปที่ไหนก็ได้ครับ ถ้ามีเพื่อนๆ ไปด้วย สนุกสนานและเฮฮาดีแท้กับทริปมหาชนบนรถบัสอลเวงตั้งแต่กรุงเทพยัน สตูล กับ 15 ชีวิตที่ร่วมตะลุย 9 เกาะ 2 ร่องน้ำ 1 หน้าผา ครบทุกอรรถรสอลเวงแบบสุดๆ เอาเป็นว่าปีหน้าไปกันอีกครับ ช่วงเวลาเดิม ถ้าใครสนใจตอนนี้อย่าเพิ่งคิดครับ รอไปก่อนเถอะ ไม่แน่อาจจะรอจนลืมไปเลยก็ได้ สำหรับมหามิตรท่านใดต้องการสืบค้นข้อมูล รูปภาพมากมายเข้าไปดูได้ตามลิ้งค์ต่อไปนี้ครับ

ตะรุเตา-อาดัง/ราวี-หลีเป๊ะ ... หาดสวรรค์หมู่เกาะทะเลใต้

No comments: