Google
 

Monday, May 10, 2010

หลงเสน่ห์ เมืองประจวบ

คุณเคยเป็นเหมือนผมมั๊ยครับ ที่การเดินทางท่องเที่ยวสู่
ภาคใต้นั้นมัก จะมองข้าม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไป

ผมได้มาสัมผัสวิถีชีวิตของชาว ประจวบฯ แบบใกล้ชิดเมื่อครั้งไปทำงานเมื่อปลายเดือนเมษา นี้เอง สิ่งแรกที่เห็นคือความเป็นเมืองที่สงบเงียบ ไม่หรูหรา ใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ไร้ซึ่งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ที่ไปที่แห่งหนใดก็มักจะพบแข่งขันกันค้าขาย และผูกขาดการตลาดด้วยอำนาจเงินของตน แต่ที่นี่ให้เพียงเปิดเป็นสาขา ย่อยเล็กๆ เท่านั้น ทำให้ผมได้มีโอกาสเห็นภาพห้างร้านแบบดั้งเดิมของ ชาวบ้านเราเปิดค้าขายกันได้อย่างสบาย ไม่เดือดร้อน

แม่ค้าขาย นำผึ้งตลาดเช้า คั้นสดๆ ขวดละ 150 บาทผมอุดหนุนมา 1 ขวด กับ 1 รังน้อยๆ ครับ

ร้าน "บ้านกัปตัน"

ด้วยวิถีชีวิตแบบนี้แหละผมถึงชอบ นัก และที่หน้าโรงแรมที่ผมไปพักนั้น ก็มีร้านค้าที่มีชื่อกิ๊บเก๋ว่า "บ้านกัปตัน" ตั้งอยู่บนถนนสู้ศึก ที่เปิดเป็นร้านขายของที่ระลึก พวกเสื้อผ้า หมวก โปสการ์ด และอีกหลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีมุมกาแฟให้ท่านนั่งจิบกาแฟ และพักผ่อนไปในตัว ด้วยอัธยาศรัยเป็นมิตรไมตรีของเจ้าของร้าน ทำให้ผมคุยด้วยอย่างถูกคอ จนรู้ที่มาของชื้อร้านว่ามาจากตนเองเป็นกัปตันเครื่องบินเล็ก ส่วนบ้านนี้ก็เช่ากับเจ้าของบ้านที่เป็นกัปตันเรือเดินสมุทร ผมก็ถึงบางอ้อ...... แต่เพราะมัวแต่คุยกันเลยไม่ค่อยได้ถ่ายภาพมา

จากการที่ผมพักอยู่ 3 คืน ก่อนปฏิบัติงาน ช่วงเช้า/เย็น ได้เดินสำรวจบ้านเมือง ลัดเลาะตามชายหาดอ่าวประจวบ และถ่ายภาพทะเลทั้งอาทิตย์ขึ้นและตก สวยงามไม่แพ้ที่แห่งใด เสียดายอยู่นิดนึงตรงที่ไม่มีพาหนะใช้เดินทางสำรวจ ใช้เพียงสองขาเดิน จึงทำให้พลาดโอกาสการชมอ่าวอีก 2 อ่าว คืออ่าวน้อย และอ่าวมะนาว รวมถึงการเดินขึ้นเขาช่องกระจกที่บนยอดเขามีเจดีย์สีทองเป็นที่ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีรอยพระพุทธบาทจำลอง และศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ

เขา ช่องกระจกที่ถ่ายภาพจากด้านล่างครับ...เพราะคงขึ้นไปไม่ทันมืด

โรงแรมประ จวบบีช ที่ผมพักครับ เจ้าของคุยง่ายเป็นกันเองมาก

แต่...ยังโชคดีอยู่บ้างที่พอมีเวลาเดินไป ชมศาลหลักเมืองในยามเย็น ที่แม้จะปิดประตูไปแล้วก็ยังสามารถถ่าย ภาพเก็บมาฝากกัน จากนั้นก็เดินลัดไปชายหาดเดินดูสะพานปลา เห็นแสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบกับก้อนเมฆสีสันสวยงามแปลกตา เบื้องล่างเป็นท้องทะเลที่เงียบสงบ เรือที่จอดทอดสมออยู่ในตอนเช้า บัดนี้ได้หายไปจากอ่าวเกือบหมด เพื่อหาปลาทู ปลาหมึกมาขายเลี้ยงชีวิตนั่นเอง

ทั้งหมดเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของห้วงเวลา ชีวิตที่ผมได้มีโอกาสมาสัมผัส แต่เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะ ทำให้ผมหลงรัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มากขึ้นอีกมากมายนอกเหนือจากที่เคย หลงรักทะเลบ้านกรูด ทะเลปราณบุรี และอช.เขาสามร้อยยอด

No comments: