Google
 

Monday, March 29, 2010

10 โรงแรมดีที่สุดในเอเชีย

เว็บไซต์ แท็บเล็ตโฮเต็ลส์ เผยรายชื่อ “10 โรงแรมดีที่สุดในเอเชีย” โดยพิจารณาจากคะแนนความพึงพอ ใจของแขกที่มาเข้าพัก ซึ่งก็คือลูกค้าที่จองโรงแรมผ่านทางเว็บไซต์แท็บ เล็ตฯ นั่นเอง โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจะรวบรวมความเห็นลูกค้าที่เข้าพัก ในโรงแรมต่างๆ ทั่วโลกแล้วนำมาอัพเดทให้ชมกันเป็นประจำทุกเดือน จากนั้นจึงนำผลที่ได้มาจัดอันดับท็อปเท็นในแต่ละหมวด โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทดีที่สุดในรอบ 12 เดือน และดีที่สุดแบบออลไทม์


สำหรับรายชื่อ “10 โรงแรมดีที่สุดในเอเชีย” ที่ “paow007″ นำมาให้ชมกันในครั้งนี้ เป็นการสรุปผลประเภทออลไทม์ หมายถึงโรงแรมที่มีคะแนน รวมมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจตราบจน กระทั่งปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าในจำนวนนี้มีโรงแรมในประเทศไทยติดอันดับท็อปเท็น ถึง 3 แห่งด้วยกัน

รายชื่อ “10 โรงแรมดีที่สุดในเอเชีย” ประเภทออลไทม์ จากผลการสำรวจของเว็บไซต์แท็บเล็ต มีดังนี้


1. Six Senses Hideaway Samui (ซิกซ์เซ้นส์เซส ไฮด์อะเวย์ สมุย) - เกาะสมุย (บ่อผุด) จ.สุราษฎร์ธานี



โรงแรมซิกซ์เซ้นส์เซส ไฮด์อะเวย์ สมุย ประกอบด้วยบ้านพักสุดหรูท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบจำนวน 66 หลัง บนเนื้อที่ประมาณ 50.5 ไร่ ภายในบ้านพักมีพื้นที่กว้างขวางพร้อมห้อง น้ำแบบเปิดโล่ง และสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ที่ให้มุมมองของท้องทะเล แต่นอกจากห้องพักสุดหรูและบริการที่เป็นเลิศแล้ว โรงแรมแห่งนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของสปาที่มีบริการให้เลือกหลาก หลายรูปแบบ อีกด้วย

ชื่อในเรื่องของ สปาที่มีบริการให้เลือก หลากหลายรูปแบบอีกด้วย


2. The Imperial – เมืองนิวเดลลี ประเทศอินเดีย



ดิ อิมพีเรียล นิวเดลลี เป็นโรงแรมเก่าแก่ที่มีสไตล์ผสม ผสานระหว่าง วิคตอเรียน โคโลเนียล และอาร์ต เดโค เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1931 (พ.ศ. 2474) มีห้องพักให้เลือกหลากสไตล์ หลายขนาดด้วยกัน ทุกห้องจะมีชุดเครื่องนอนอย่างดีไว้คอยบริการ ส่วนของใช้ในห้องน้ำล้วนเป็นของแบรนด์ดัง “Fragonard” จากประเทศฝรั่งเศสทั้งสิ้น นอกจากความหรูหราอลังการในส่วนของห้องพัก แล้ว สระว่ายน้ำกลางแจ้ง สปา ตลอดจนร้านอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิด ที่มีให้เลือกมากมายหลายร้าน ก็สร้างความประทับใจให้แขกผู้มา เยือนเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน


3. The Datai – ลังกาวี ประเทศมาเลเซีย



ในขณะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักนึก ถึงประเทศไทยและบาหลีเป็นอันดับแรกเมื่อต้องการเดินทางไปพักผ่อนตาม โรงแรม ริมชายหาด แต่รีสอร์ทเปิดใหม่หลายแห่งบนเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ก็เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็น จำนวนไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงโรงแรมสุดหรูอย่าง Datai ที่ตั้งอยู่ริมหาดทรายสีขาว รายล้อมด้วยป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์และ มีต้นไม้หนาทึบ ซึ่งนอกจากห้องพักที่ตกแต่งอย่างหรูหราสวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีสปาหรูระดับเวิลด์คลาส และกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกอล์ฟ เทนนิส (เปิด สนามให้เล่นเวลากลางคืนด้วย) กีฬาทางน้ำ ซึ่งถ้าหากโชคดี (?) อาจมีลิงและบ่างแวะมาเยี่ยมเยียนให้ชมกันถึงหน้าบ้านเลยทีเดียว


4. Anantara Dhigu Resort & Spa – มาเล่ (South Male Atoll) สาธารณรัฐมัลดีฟส์



รีสอร์ทในมัลดีฟส์ขึ้นชื่อเรื่องของ แนวคิดการออกแบบ ตกแต่ง ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด สวยงาม และมีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ซึ่งโรงแรมอนันตรา เธคุ (ใน เครือโรงแรมอนันตราที่ประเทศไทย) ก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้ภายนอกจะมีลักษณะเป็นกระท่อมไม้หลังคามุงจาก (หรือมุงด้วยใบอะไรสักอย่าง) แต่ ภายในห้องพักได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา สะอาดตา และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ ทั้งยังมีภัตตาคารอาหารรสเลิศ (พร้อมคอร์สสอนทำอาหาร) สปา ฟิิตเนส โยคะ ห้องสมุด สนามเทนนิส กีฬาทางน้ำ ฯลฯ ไว้คอยบริการมากมาย


5. The Sarojin (เดอะ สโรจิน) – เขาหลัก จ. พังงา



โรงแรมเดอะ สโรจิน เป็นของ แอนดริว และเคท เคมป์ สองสามีภรรยาชาวอังกฤษที่มาลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองไทย เดิมทีโรงแรมแห่งนี้มีกำหนดเปิดบริการในวันที่ 10 มกราคม 2548 แต่มาถูกคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเข้าเสียก่อน (ปลายปี 2547) จึงต้องเลื่อนกำหนดออกไปนานถึง 9 เดือน แม้คลื่นยักษ์จะไม่ได้คร่าชีวิตผู้ คนในรีสอร์ทแห่งนี้ เนื่องจากยังไม่ได้เปิดดำเนินการ และเป็นวันอาทิตย์จึงไม่มีพนักงานเข้ามาทำงาน แต่คลื่นยักษ์ก็ได้สร้างความเสียหายให้แก่อาคารชั้นล่างทั้งหมด จึงต้องเสียทั้งเวลาและทรัพย์สินในการปรับปรุงใหม่ (ที่มา: นิตยสาร ผู้จัดการ สิงหาคม 2549 เรื่อง Letter from Andaman…ประสบการณ์ดีๆ ที่เกิดขึ้นหลัง สึนามิ โดย มานิตา เข็มทอง)

เดอะ สโรจิน เป็นโรงแรมหรู ขนาด 56 ห้อง ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บนชายหาดส่วนตัวสีขาวอันเงียบสงบ ยาว 11 กิโลเมตร แวดล้อมด้วยต้นไม้ท้องถิ่นนานาพันธุ์ ด้านหนึ่งเป็นลำธาร ส่วนอีกด้านเป็นทะเล จึงให้ความรู้สึกร่มรื่นและใกล้ชิด กับธรรมชาติ แต่ก็เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในขณะเดียวกัน (แต่ละห้องจะมี ศาลาส่วนตัวให้ใช้เป็น ที่พักผ่อน นวดตัว เล่นโยคะ หรือเป็นที่รับประทานอาหาร) นอกจากนี้ ภายในโรงแรมยังมีภัตตาคา รหลายแห่ง สปา ฟิตเนส ฯลฯ ทั้งยังมี เรือยอชต์ ทัวร์ดำน้ำ เรือแคนู รวมทั้งทัวร์บนหลังช้าง ไว้คอยบริการอีกด้วย


6. Desa Seni – หมู่บ้านชังกู (Canggu) บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย



ชื่อโรงแรม “Desa Seni” หมายถึง “หมู่บ้านศิลปะ” ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากรูปแบบบ้านพักทั้ง 12 หลัง ที่ได้รับการออกแบบในสไตล์บาหลีขนานแท้ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รายล้อมด้วยทุ่งนา และอยู่ไม่ไกลจากชายหาดมากนัก ถึงแม้ภายนอกจะเห็นเป็นบ้านแบบ อินโดฯ โบราณ แต่ภายในห้องพักกลับมีทุกสิ่งทุกอย่างที่โรงแรมพึงมี รวมทั้งระบบอินเตอร์เน็ตไร้สายที่ให้บริการ “ฟรี” อีกด้วย


7. The Opposite House – กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน



โรงแรมเปิดใหม่สุดหรูสไตล์ โมเดิร์นแห่งนี้ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า เคนโกะ คุมะ ตัวอาคารด้านนอกมีรูปทรงสี่เหลี่ยม ตกแต่งด้วยกระจกสีเขียวสลับเหลือง ส่วนภายในห้องพักเน้นความโปร่งโล่ง และตกแต่งด้วยวัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก แม้จะมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ทั้งหมดล้วนเป็นของหรูหราระดับไฮ-เอ็น ด์แทบ ทั้งสิ้น


8. Taj Lake Palace – เมืองอุทัยปุระ ประเทศอินเดีย



“Taj Lake Palace” สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1740 (พ.ศ. 2283) ในอดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนที่ ตั้งอยู่กลางทะเลสาป Pichola ปัจจุบัน กลายเป็นโรงแรมสุดหรูระดับเวิลด์คลา ส ขนาด 83 ห้อง ที่เหล่าคนดังทั่วโลกนิยมมาเข้าพัก และยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง “เจมส์ บอนด์” อีกด้วย


9. The Landmark Mandarin Oriental – ฮ่องกง



ในขณะที่โรงแรม “แมนดาริน โอเรียนเต็ล” บนเกาะฮ่องกงได้ชื่อว่าเป็นโรงแรม “คลาสสิก” สุดหรูระดับ 5 ดาว แต่โรงแรมในเครืออีกแห่งอย่าง “แลนด์มาร์ก แมนดาริน โอเรียนเต็ล” ซึ่งเป็นโรงแรมหรู 5 ดาวขนาด 113 ห้อง กลับมีสไตล์ที่โดดเด่นและแตกต่างอย่าง เห็นได้ชัด เพราะตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัย และถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ แตกต่างจากโรงแรมหรูส่วนใหญ่ในฮ่องกง ที่สำคัญ ห้องพักของโรงแรมดังกล่าวยังกว้างขวาง โอ่อ่า และได้ชื่อว่าเป็นห้องพักโรงแรม ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง เท่านั้นยังไม่พอ ภายในห้องพักยังเพียบพร้อมไปด้วยข้าวของเครื่องใช้อันทันสมัยไฮเทค เช่น ทีวีจอแบนบางเฉียบ และระบบเครื่องเสียงที่สามารถเชื่อมต่อกับ เครื่องเล่นไอพอด เป็นต้น


10. The Peninsula Bangkok (เดอะ เพนนินซูล่า) – กรุงเทพฯ



โรงแรมเพนนินซูล่าตั้งอยู่ริมฝั่งแม่ น้ำเจ้าพระยา จึงให้มุมมองของลำน้ำและวิวเมืองที่สวยตะลึงในแบบพาโนรามา แต่สิ่งที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกประทับใจไม่ได้มีแค่นั้น หากยังรวมถึงการบริการที่เป็นเลิศ ห้องพักและห้องสวีทที่กว้างขวาง ได้รับการตกแต่งอย่างปราณีต หรูหรา แต่ก็ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นในขณะเดียวกัน อีกทั้งยังควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทั้งห้อง (จากแผงควบคุมข้างเตียงและในห้องน้ำ) พร้อมระเบียงชมวิวส่วนตัว นอกจากนี้ ภายในโรงแรมยังมีภัตตาคารอาหารรส เลิศ สปาหรู ฟิตเนส ห้องเต้นแอโรบิค จากุซซี่ ห้องอบซาวน่า และบิวตี้ ซาลอน ไว้คอยบริการอีกด้วย


ที่มา: แท็บเล็ต โฮเต็ลส์ /

No comments: