อันนี้ชมพูพันทิพย์
คิดว่าหลายคนคงเคยเห็น เพราะมีทั
จริงๆก็ไม่เชิงเป็นไม้ ไทยนะ เป็นของที่อื่นแหละ
แต่นำเข้ามานานมากแล้ว จนกลายเป็นไม้ของไทยไปเอง
ชื่ออื่นๆ | : | ชมพูอินเดีย ตาเบบูยาพันธุ์ทิพย์ |
ชื่อพฤกษ ศาสตร์ | : | Tabebuia rosea (Bertol.) Raf. |
วงศ์ | : | BIGNONIACEAE |
ชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นไม้ต้น ผลัดใบ สูง 8 - 18 เมตร ใบ ออกตรงข้ามสลับฉาก ใบประกอบรูปนิ้วมือ ใบย่อย 5 ใบ ใบย่อยรูปรี โคนใบสอบ ปลายใบเรียวแหลม กว้างประมาณ 5 ซม. ยาวประมาณ 10 ซม. ดอกช่อ ออกตามปลายกิ่ง กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ดอกร่วงง่าย สีชมพู หรือ ม่วงอมชมพู ผล เป็นฝัก แห้ง แตก รูปร่างแคบ แบน ยาวประมาณ 15 ซม.เมื่อแก่แตกเป็น 2 ซีก เมล็ด จำนวนมาก มีปีก ออกดอกเดือน กุมภาพันธ์- เมษายน การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ตอนกิ่งหรือ ปักชำ ประโยชน์ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป เนื่องจากดูแลง่ายและดอกสวยงาม เป็นไม้ประดับที่ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร เป็นผู้นำเข้ามา จึงได้ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติ
ข้อมูลจาก http://www.wangtakrai.com/
อันนี้ชื่อดอกตะแบก
- ชื่อพื้นเมือง อื่นๆ: ตะแบกนา ตะแบกไข่ เปื๋อยนา เปื๋อยหางค่าง
- ลักษณะ: ผลัดใบ สูง 15 - 30 เมตร
- ใบ: ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามหรือเยื้องกันเล็กน้
อยใบอ่อนสีแดงมีขนสั้นอ่อนนุ่ มปก คลุม ใบแก่ขนจะหลุดหายไป แผ่นใบรูปขอบขนานแกมรูปหอก กว้าง 5 - 7 เซนติเมตร ยาว 12 - 20 เซนติเมตร ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนสอบ - ดอก: สีม่วงอมชมพูต่อมาเปลี่ยนเป็นสี
ขาวหรือเกือบขาว ออกรวมกันเป็นช่อตามปลายกิ่ง ผล รูปรี ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร - การขยาย พันธุ์: โดยเมล็ด
- ประโยชน์:เนื้อ ไม้ละเอียดแข็ง ใจกลางมักเป็นโพรง ใช้ทำสิ่งปลูกสร้างที่รับน้ำหนั
ก เสา กระดานพื้น และเครื่องมือการเกษตร และนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
ขึ้นประปรายในป่าเบญจพรรณพื้
ออกดอก กรกฎาคม - กันยายน ไม่แน่นอนแล้วแต่สภาพพื้นที่
ข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%
No comments:
Post a Comment