" กลับมาแล้ว ได้กลับมาที่นี้อีกครั้ง " ฉันนึกในใจ เจ้านาฟ้าค่อยๆเคลื่
ฉันรีบลง ทักทายพี่เณรที่เดิ
...
" ขอเข้าเดิน 7 คนนะคะ " ฉันโทรหาหัวหน้าอุทยานฯศรีพังงา
" ผมคิดว่ามากเกินไปนะ "
" งั้น 6 คน " ฉันต่อรองลดจำนวนเพื่อนร่วมทริป พร้อมๆกับเริ่มคิดแระ .. ตัดใครออกดี
" อื่ม! ม ม ม มม ม ..... "
" เอางี้ค่ะ 5 คนก็ได้ค่ะ " น้อยสุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ด้วยจำนวนคน ที่ได้รับอนุญาต กับที่ต้องการเดินป่า " พรุชิง " ไม่สอดคล้องกัน ฉันจำเป็นต้องตัดรายชื่
" ต่อจากนี้ไป จะไปด้วยทุกทริปแล้วล่ะ " คำนี้แหละมั้ง ที่ทำให้ฉันเริ่มไม่ชักชวน ParadiseFc เพราะถ้าชวน ก็ต้องนับ 2 นั่นหมายถึงว่า ฉันต้องเห็นสิ่งที่ทำให้ใจที่
ยังงัยซะหลัง จากทริปนี้แล้ว ฉันคงต้องพิจารณาตัวเอง .. ลาออกจากการเป็น ผจก.ทริปชาวโอ้เอ้แล้วล่ะมั๊ง .. หรือไม่ก็ เปิดทริปโอ้เอ้ที่ไม่มีเค้า ..
ด้วยปริมาณ สมาชิกที่ได้รับอนุ
" เอานาฟ้าไป .. เรามือ 1 .. ไปเรื่อยๆตั้งแต่ office ง่วงเมื่อไหร่ เธอมือ 2 แต่คาดว่า แค่วังมะนาวก็ง่วงแล้ว ฮ่าๆ "
ถึงวันเดิน ทาง สละสิทธิ์ไปอีก 1 เอาล่ะ นั่งสบายๆ กับเจ้านาฟ้า 4 คน ออกเดินทาง 2 ทุ่ม ฉันอยู่กะแรก พาเจ้านาฟ้าไปเรื่อยๆ สมองน้อยๆก็คิดไปเรื่อยๆ .. " ถ้าข้างหลังไม่มีใคร .. ถ้ามีแค่เธออยู่ข้างๆแบบนี้ ตลอดไปก็จะดีนะ " ฉันรีบสลัดความคิดนั้นทิ้ง .. " อย่าคิดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้น่า "
" ง่วงแระ .. " ฉันส่งเสียงแทรกกับเสียงเพลงดั
เปลี่ยนมือ ให้ผลัด2 ที่ปราณบุรี กี่ทุ่มจำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ว่า ย้ายที่นั่งเสร็จฉันก็หลับตา ปิดสมอง ปิดการรับรู้สิ่งรอบข้างทั้งหมด รู้ตัวอีกครั้ง ..ก่อนเข้าเมืองชุมพร
ปั๊ม ปตท เป็นที่พักนอนอย่างดีสำหรั
" เราเดินเข้าทางนี้เหรอ " หลังจากออกจากโรงอาหารของอุทยาน พวกเราเดินมุ่งน้ำขึ้นทางทิ
" โตนหินรา 2 กม. น้ำตกโตนขิงแห้ง 3 กม. น้ำตกโตนต้นไทร 3 กม. ไปเส้นนี้เหรอคะ " ฉันอ่านป้ายไปเรื่อยๆ
" ใช่ เดี๋ยวเราจะต้องเดินผ่านน้ำตกทั
เราเดินผ่า เข้าดงไผ่ ดงกล้วย ข้ามลำธารสายเล็กๆที่เกือบจะแห้
พี่เณรพา เดินหลบลงลำธารกะว่
แหล่งน้ำ เล็กๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตหลบซ่อนอยู่ .. ตัวนี้รอดพ้นเงื้อมมือกลุ่
สมาน เฉลิม น้องมน สิน เจ้าหน้าที่ร่วมเดินทาง
สายน้ำจาก โตนหินรา ยามหน้าแล้ง เรากินข้าวเที่ยง กันตรงนี้
ต้นน้ำตก โตนหินรา ( ถ้ามาในหน้าฝนเราไม่สามารถมายื
เมื่อฉันเดิน ผ่านโขดหินลำธารที่
ต้นน้ำตก โตนขิงแห้ง ( วันนี้ก็ไม่มีน้ำ )
ธารน้ำที่ ไหลออกมาสู่ต้นน้
เส้นทาง เดินที่เดิมเป็
พี่เณร สมาน เฉลิม สิน เจ้าหน้าที่และทริปนี้มีน้
" พี่แป๋ม เชื่อมั๊ยว่า ป่าพรุ ที่นี่มีอยู่บนเขา " สินลากจูงฉันเดินไปพูดไปให้
ลำพังความรู้ เท่าหางอึ่งที่มี
" ป่าพรุ มันอยู่บนนี้เหรอ .. น่าสนใจนะ จะถึงยังล่ะ " ฉันถามไปงั้น แต่ที่อยากเห็น .. " ลานนกหว้า " มากกว่า
ทริปนี้พี่ เณรโฆษณาไว้ตั้งแต่
( ภาพข้างล่างนี้เป็น .. ตัวอย่างนกหว้า ที่พวกเราตั้งใจมานะบากบั่นดั้
เดินไปพักไป ตั้งแต่ 10 โมงเช้า .. ว่าด้วยระยะเวลาพักมากกว่
" พี่แป๋มมาคราวนี้ ไหวมั๊ยพี่ .. หน้าพี่ไม่มีสีแล้ว " ทั้งมน ทั้นสิน สมาน เฉลิม ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาถาม ฉันนั่งวิงเวียน ใช้หมวกแทนพัด โบกเอาลมเข้าตัวเองถี่ๆ
" ไหวอยู่ .. เอายาดมมาดมหน่อยดิ " เหลือบเห็นเจ้ามนคนข้างตัวนายสิ
ข้างหน้า เนี่ย ถึงแล้วพี่ พวกเราพักตรงนี้แป๊บ ให้พวกเค้าไปกันก่อน ( พวกเค้าในที่นี้ก็คือ พี่เณร ParadiseFc และพวก ส่วนพวกเรา หมายถึง ฉันที่ห้อมล้อมไปด้วยน้องเจ้
พอเริ่มออก เดินไปได้ไม่นาน ก็รู้ว่าเดินหลงกับกลุ่มพวกเค้า พลังงานของฉันที่เกื
" ลานนกหว้าเก่า " พี่เณรรอบอกฉัน .. พี่เณรและกลุ่มผู้นำเดินเร็
ลักษณะ พื้นที่เรียบเป็นลานกว้าง ปราศจากกอไม้กิ่งไม้เล็กๆ แต่เนื่องจากเป็นลานเก่าแล้ว จึงถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้แห้งที่
" ถ้าฉันได้เห็นตัวของเค้า กรีดกรายร่ายรำ อยู่บนลานนี้ มันจะสวยงามแค่ไหนน้อ " ฉันนึกไปกวาดสายตาไปรอบๆ
" เราจะผ่านอีกหลายลาน วันกลับก็ผ่านอีก " สินพูดเสร็จก็ลากจูงฉันเดินต่
ผ่านลาน กำมะหยี่ ( ชื่อนี้ฉันตั้งเองและเข้าใจกั
" วันนี้ขอผ่านไปก่อนนะ ไม่มีอารมณ์ยกกล้องเท่าไหร่ .. เฮ่อ! ขนาดเอาตัวจิ๋วมาแล้วนะ ยังรู้สึกว่าหนักแทบจะโยนทิ้ง .. สิน.. พรุ่งนี้เราจะมาตรงนี้อีกมั๊ย " ฉันถามเพื่อความแน่ใจ ถ้าไม่คลิ๊กวันนี้ เราจะเดินย้อนมาเก็บภาพเส้
" มาพี่ ถ้าไม่ผ่านพรุ่งนี้ ก็ต้องผ่านตอนเราเดินกลับ เดี๋ยวเราจะผ่านดงต้นชิงด้วย " สินบอกเส้นทางที่เราจะต้องเดิ
เส้นทางนี้ ไม่ไกลแต่สาหั
ไม่นานพวกเรา ก็ผ่านดงต้นชิง
" ดินแดนของที่มาของคำว่า " พรุชิง " .. น่ะเหรอ "
" นี่แหละ .. ปีนี้แห้งแล้ง ปกติจะมีน้ำขังตลอด " งั้นก็แสดงว่าเส้นทางนี้ นอกจากจะเป็นที่ลุ่มนำขัง มีใบไม้ทับถม บนยอดเขาที่มีความสูง 440 เมตรจากระดับน้ำทะเลแล้ว เส้นทางนี้ก็อุดมไปด้วยเหล่
" ตอนนี้น้อยพี่ แต่เห็บน่ะเยอะ " น่านแหละที่น่ากลัวอีกอย่าง กัดเกาะที คันไปเป็นปีเลยที่เดียวสำหรับฉั
" เอาวะ! ปลงแระ ค่อยเช็คเรตติ้งเห็บตอนกลับที
พี่เณรช่วย กางฟรายด์ ผูกเปล ฉันปูกราวด์ ..
" กินกันง่ายๆนะ เดี๋ยวรีบกินรีบนอน " อาการปวดหัวแบบรุนแรงของฉันไม่
" เธอหันหัวไปทางไหน " ParadiseFc เดินเข้ามาถาม
" ทางนั้น " ฉันชี้ส่งๆ ... นั่นหมายความว่า ด้านหัวของเค้าอยู่ด้านเท้
เริ่มมืด อาหารแบบง่ายๆ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ไข่เจียว ก็เสร็จจัดวางเรียง พวกเราล้อมวงกันใต้ฟรายด์ฉัน สนทนากันได้ไม่นาน แยกย้านเข้านอน
" สงสัยจบทริปนี้เราต้องแขวนเป้
" ไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ป่าว เจออากาศร้อนๆ ก็เลยไปกันใหญ่ "
ฉันจะบอกเธอ ยังงัยว่า สาเหตุสำคัญอยู่ที่ .. " สิ่งที่ฉันเห็นมันทำให้ใจของฉั
" น่าจะใช่เนอะ นอนแระ ให้ตื่นเมื่อไหร่ก็ปลุกแล้วกัน " .. ทิ้งวงสนทนาตะกายขึ้นเปล ฟังเสียงคนด้านล่าง
" นอนไม่ได้ เล็กไป ติดไป " เสียงบ่น เสียงพลิกตัวไปมา จากคอนโดเปล ปลายเท้า เสียงลากรองเท้าเดินเข้ามาใกล้ๆ
" นอนตรงนี้ด้วยคน " เสียงหมอนที่ถูกโยนกระทบกราวด์
No comments:
Post a Comment