ในวันนี้คนแน่นร้านแทบทั้งวัน จนกระทั่งถึงเวลา 22.00 น.คนก็เริ่มน้อยลง โดยปกติแล้วบนถนนสายนี้คนจะแน่
ในคืนวันส่งท้ายปีเก่า พอลูกค้าคนสุดท้ายกลั
'เชิญนั่งครับ' เถ้าแก่ร้องทักทายออกมา หญิงคนนั้นเอ่ยปากอย่างขลาดกลั
'ขอบะหมี่น้ำสักชามได้ไหมคะ' เด็กชายสองคนที่อยู่ข้างหลั
'ได้ค่ะ ได้ค่ะ ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ เชิญนั่งก่อนค่ะ'
เถ้าแก่เนี้ยพาพวกเขาไปนั่งที่
'บะหมี่น้ำหนึ่งชาม'
บะหมี่หนึ่งชามมีบะหมี่แค่หนึ่
'ทานเถอะครับ' ลูกคนพี่พูด
'แม่ทานหน่อยสิครับ' ลูกคนน้องพูดไปก็คีบบะหมี่ให้
'ขอบคุณมากค่ะ (ครับ) บะหมี่อร่อยมากค่ะ (ครับ)' พร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อยแล้
'ขอบคุณมากค่ะ (ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ (ครับ)' ทั้งเถ้าแก่และเถ้าแก่เนี้ยต่
ทำงานไปวันแล้ววันเล่ายุ่งตั้
และแล้ววันที่วุ่นวายก็จบสิ้
'ขอบะหมี่น้ำหนึ่งชามได้มั้ยคะ'
'ได้ค่ะ ได้ค่ะ เชิญนั่งตามสบายนะคะ'
เถ้าแก่เนี้ยนำพวกเขาไปนั่งที่
'บะหมี่น้ำหนึ่งชาม'
เถ้าแก่รับคำพลาง จุดเตาที่เพิ่งจะดับไปพลาง
'ได้ครับ บะหมี่น้ำหนึ่งชาม'
เถ้าแก่เนี้ยแอบไปพูดที่ข้างหู
'ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นจะทำให้
สามีตอบพลางแล้วโยนบะหมี่อีกครึ
'เห็นเธอซื่อๆ ทึ่มๆ ไม่นึกเลยว่าจิตใจก็ดีเหมือนกั
ฝ่ายสามีเดินไปตักบะหมี่ชามใหญ่
'หอมจังเลย...ยอดไปเลย...อร่
'ขอบคุณค่ะ (ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ (ครับ)' มองตามหลังสามแม่ลูกจนลับหายไป
สองตายายก็ยกเรื่องสามแม่ลู
พอคนกลับไปหมดแล้ว เจ้าของร้านทั้งสองก็ช่วยกั
30 นาทีก่อน เถ้าแก่เนี้ยก็เอาป้าย 'จองแล้ว' ไปวางไว้บนโต๊ะเบอร์สอง เหมือนกับว่าจะมีเจตนารอแขกที่
22.30 น. ในที่สุดสามแม่ลูกก็ปรากฏตัวขึ้
'เชิญค่ะ เชิญค่ะ' เถ้าแก่เนี้ยกล่าวทักทายอย่างมี
มองใบหน้าอันยิ้มแย้มและท่
'รบกวนช่วยทำบะหมี่น้ำให้สั
'ได้ค่ะ เชิญนั่งทางนี้ค่ะ' เถ้าแก่เนี้ยนำแม่ลูกไปนั่งยั
'บะหมี่น้ำสองชาม'
'ได้ครับ บะหมี่น้ำสองชามได้เดี๋ยวนี้
สามแม่ลูกกินไปพูดไป ดูแล้วเหมือนมีความสุขกันมาก สองสามีภรรยาที่ยืนอยู่หลังโต๊
'ลูกรัก วันนี้แม่ต้องขอบคุณลูกๆ เป็นอย่างมาก'
'ขอบคุณทำไมครับ?'
'เรื่องเป็นอย่างนี้ คือคุณพ่อของลูกที่ประสบอุบัติ
'เอ๊ะ เรื่องนี้เราก็ทราบกันอยู่แล้
ส่วนเถ้าแก่เนี้ยได้แต่ตั้งใจฟั
'แต่เดิมนั้นเราต้องชำระหนี้
'จริงๆ หรือครับแม่'
'จริงสิจ๊ะ นี่เป็นเพราะว่าพี่ชายของลูกขยั
'ว้าว แม่ครับ พี่ครับ อย่างนี้ก็วิเศษสิครับ แต่ว่าต่อไปขอให้ผมได้ช่
'ผมก็จะส่งหนังสือพิมพ์ต่อนะครั
'ขอบใจลูกทั้งสองมาก ขอบใจจริงๆ'
'แม่ครับผมกับน้องก็มีความลั
'จริงหรือลูก แล้วต่อมาล่ะ'
'หัวข้อที่คุณครูให้เรียงความคื
'เรียงความเขียนว่า...หลังจากที
'ยังมีอีก น้องยังเขียนถึงในคืนวันที่ 31 ธันวาคม พวกเราสามคนแม่ลูกได้มาล้อมวงกั
'ด้วยเหตุนี้น้องจึงได้ตัดสิ
สองตายายเจ้าของร้านบะหมี่ที่ยื
พวกเขาไม่ได้หายไปไหนเลย เพียงแต่คุกเข่ากันอยู่ใต้โต๊ะ ในมือถือปลายผ้าขนหนูกันคนละข้
พอน้องอ่านเรียงความจบ คุณครูก็พูดว่า 'วันนี้พี่ชายได้มาเป็นตั
'จริงหรือลูก แล้วลูกทำอย่างไรล่ะ'
'ก็มันกะทันหันเกินไป ตอนแรกๆ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ผมจึงพูดว่า...ขอบคุณทุกคนที่
'เมื่อครู่นี้ตอนที่ได้ยินน้
'หลายปีมานี้ ความกล้าของคุณแม่ที่จะสั่
สามแม่ลูกกุมมือกันเงียบๆ ตบไหล่ กินบะหมี่หมดอย่างมีความสุขกว่
มองตามหลังสามแม่ลูกไป เจ้าของร้านจึงได้รู้สึกว่าปีนี
'ขอบคุณค่ะ (ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ (ครับ)'
และแล้วก็ผ่านไปอีกปีหนึ่ง
พอถึงเวลา 21.00 น. ทางร้านฮอกไกก็วางป้าย 'โต๊ะจอง' ไว้บนโต๊ะเบอร์สองและเฝ้
ปีที่สอง ปีที่สาม โต๊ะเบอร์สองก็ยังคงว่างอยู่เช่
กิจการของร้านฮอกไกดีมาก เรียกว่าดีวันดีคืนเลยทีเดียว ภายในร้านมีการตกแต่งใหม่ โต๊ะเก้าอี้ก็มีการเปลี่ยนใหม่ จะมีก็แต่โต๊ะเบอร์สองที่เก็บรั
'นี่มันเรื่องอะไรกัน' ลูกค้าหลายคนต่างก็ถามด้
เถ้าแก่เนี้ยก็เลยเล่าเรื่
โต๊ะเก่าตัวนั้นวางอยู่กลางร้
โต๊ะเบอร์สองตัวนั้นเปลี่ยนเป็
ลูกค้าต่างก็พูดต่อๆ กันไป มีนักเรียนหลายคนอยากเห็นโต๊ะตั
ผ่านวันที่ 31 ธันวาคม ไปอีกหลายๆ ปี
พอถึงวันสิ้นปีหลังจากปิดร้
ในวันนี้พอเลย 21.30 น. ไปแล้ว เจ้าของร้านขายปลามาถึงก่อน พร้อมทั้งนำซาซิมิมาด้วย ต่อจากนั้นก็มีคนมาเรื่อยๆ เป็นระยะ บ้างก็เอาเหล้ามา บ้างก็เอาอาหารกับแกล้มมา ปกติแล้วก็จะรวมตัวกันได้
พอเตรียมกับข้าวกับแกล้ม ต่างก็กินกันไปคุยกันไป พูดเรื่องการค้าบ้าง คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ แม้แต่น้ำทะเลขึ้นลง ในระยะนี้บ้านไหนมีเด็กเกิดใหม่
เวลาผ่านไปจนถึง 22.30 น. ทันใดนั้นเองประตูร้านก็ถูกผลั
พอเห็นว่าผู้ที่มาเป็นใคร ทุกคนก็รู้สึกว่าบรรยากาศเริ่
'ขอโทษค่ะ ที่นั่งเต็มหมดแล้วค่ะ' เพื่อปฏิเสธลูกค้าที่ไม่ได้รั
"เอ้อ..รบกวน..รบกวนช่วยทำบะหมี
ทันทีที่เถ้าแก่เนี้ยได้ยินสี
เถ้าแก่ที่ยืนตะลึงอยู่ที่โต๊
ชายหนุ่มหนึ่งในสองคนเห็นท่าที
'พวกเราสามคนแม่ลูกที่เมื่อสิ
'หลังจากนั้นก็อพยพครอบครั
สองตายายฟังไปพลาง พยักหน้าไปพลางด้วยน้ำตาคลอเบ้
'อ้าว..เถ้าแก่..เป็นอะไรไปล่ะ'
ในที่สุดเถ้าแก่เนี้ยก็ได้สติ ตบไหล่ของเถ้าแก่ร้านขายผัก แล้วพูดว่า
'ยินดีต้อนรับค่ะ..เชิญนั่งข้
เถ้าแก่ที่ยืนตะลึงอยู่ก็รี
"ครับ..บะหมี่น้ำสามชาม"
หากดูกันตามจริงแล้ว สิ่งที่เถ้าแก่ร้านบะหมี่ทั้
เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า --- อย่าพยายามมองข้ามตัวเอง
ตัวเราเองสามารถมีอิทธิพลต่อสิ่
เพื่อนที่รัก...... อย่ามัวเห็นแก่ตัวกันหรือเสี
ถึงแม้จะเป็นแสงเพียงริบหรี่เท่
แต่สำหรับคืนอันหนาวเหน็บอันเย็
กำลัง ใจในการต่อสู้ และฝ่าฟัน อุปสรรคที่เราทุกคนต้องพบ และผ่านไปให้ได้ ในแต่ละปี ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะค่ะ สวัสดีปีเสือค่ะ
No comments:
Post a Comment