บันทึกการเดินทาง ครั้งนี้ จึงขอบอกเล่าด้วยเนื้อหาแบบนั
ดอยหลวงเชียงดาวนั้นถือเป็นภู
แต่ ที่ยิ่งท้าทายยิ่งกว่าก็คือ การที่ต้องแบกของกิน เสบียง ทั้งอาหารและน้ำขึ้นไปกินเอง ด้วยระยะทางและต้องแบกสั
สำหรับผมเองนั้นเป็นความบังเอิ
หลังเลิกงานวัน ศุกร์ก็เจอกันที่จุดนัดพบ แน่นอนผมมาสายเช่นเคย อิอิ แต่ก็นะ พี่ๆน้าๆเค้าคงชินกันหมดแระ หะๆ.. จนแบบว่ากว่าจะออกจากกรุงเทพได้
แต่ กว่าจะจัดการเรื่องลู
การเดินทางครั้งนี้พวกเราเลื
ยังไงก็ต้องเดินต่อไปให้ได้
กว่า จะกินข้าวเสร็จ รอลูกหาบเสร็จ นี่ก็ปาเข้าไปบ่าย 2 กว่าๆแล้ว แถมลูกหาบก็งอแง ไม่ยอมไปต่อ จนพวกเราตกลงจะจ่ายเงินเพิ่ม ให้กับพี่ที่จะเอาเตนท์กับเสบี
ห้าโมงกว่าพวกเราก็มาถึง"อ่
คืน นี้เสบียงของเราก็ง่ายๆครับ มาม่า หร่อยที่ซู๊ดดด ฮ่าๆ อิ่มแล้วก็ต้องรีบเข้านอนหล่
เพื่อชีวิตกันสุดๆหล่ะครับ ที่สุดๆไปกว่านั้นคือช่วงๆดึกๆ เง้อ หนาวมากกกกก หมอกลงหนามาก เย็นจับใจหล่ะครับ แทบนอนกันไม่ได้ทีเดียว กลางหุบเขาหินปูน ตอนกลางคืนมันก็แบบนี้หล่ะครับ เห่อๆ ตื่นเช้ามาก็ต้มกาแฟร้อนๆ พร้อมกับโจ๊คคนละถ้วย ให้พอคลายหนาวได้ แต่ขอบอกว่า แบบนี้หล่ะครับสุขใจ ได้บรรยากาศการเดินทางที่สุด ชอบนะครับ โหดดี ฮ่าๆ
เอาหล่ะได้เวลาเดินทางกันต่อแล้
ไม่ นานพวกเราก็มาถึงกิ่วลม จุดพักกางเตนท์ของเรา มาถึงก็รับจัดเตรียมสถาณที่
หุง ข้าว กับผัดผักรวมมิตรแบบมีอะไรก็ใส่
อยาก บอกว่าที่นี่บรรยากาศดีสุดๆ นอนมองดาวสบายใจ เป็นสถานที่ที่โอบล้อมด้วยขุ
แต่ยังไงคืนนี้ต้องรีบนอนหล่
ผจญ ภัยกันมา 2 วัน 2 คืนแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับกัน ขากลับพวกเราก็เดินกันรวดเดี
ออก เดินทางกันตอนสิบโมงครึ่ง เดินเรื่อยๆ ชมนกชมไม้ ถ่ายรูปไปเรื่อย พวกเราก็มาถึงจุดหมายกันตอนบ่
No comments:
Post a Comment