ล่องโขงสู่หลวงพระบาง ๗ เย็นย่ำกลางน้ำโขง-เจดีย์ทราย
วัน ที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๓ วันนี้ช่วงบ่ายเขาปล่อยให้
แม่ น้ำโขงตรงวัดเชียงทอง มีสันดอนเกิดขึ้นขนาดใหญ่ ชาวลาวจะฉลองสงกรานต์กันที่นี่
มี ร้านรวงมาตั้งมากมาย แต่ละซุ้มแต่ละร้าน รวมถึงกระโจมของวงต่าง ๆ เปิดเพลงดังสนั่นหวั่นไหว ผู้คนก็ทั้งกรี๊ดทั้งเต้นกั
พวกผม เดินผ่านบริเวณนั้นไป เพื่อที่จะขึ้นไปดูวัดอีกแห่
ว่า กันว่า วัดแห่งนี้สร้างโดยเจ้
เสร็จ แล้วเราก็ลัดเลาะไปทางริ
เลยไปหน่อยเป็นวัดถ้ำเวียงแมน ซึ่งเราก็ต้องเสียค่า “ปี้” อีกครั้ง และต้องเดินลงไป ซึ่งถ้ำแห่งนี้มืดมาก มีไฟฟ้า แต่ติดแค่ ๒ หลอด เราจึงเอาเทียนจุดเดินลงไป พร้อมกับนักท่องเที่ยวชาวลาว และต่างชาติอื่น ๆ เดินสุ่ม ๆ กันไป ข้างในไม่มีอะไร นอกจากพระพุทธรูปไม้แกะสลัก ซึ่งมีอยู่ในถ้ำเป็นจุด ๆ
ออก มาแล้วเราจึงเดินกลับทางเก่า และลงไปยังสันดอน เดินลัดกลุ่มผู้คนไปจนถึงท่าเรื
นั่ง เรือกลับ ๓ คน ต่อรองได้ ๒๐ บาท ค่าโดนสายเรือข้ามฟาก คนละ ๒,๐๐๐ กีบ แต่จ่ายไปเท่านั้นเอง เราขึ้นฝั่งตรงหน้าวัดเชี
วันนี้ เรือข้ามฟากคงมีรายได้ดี
เมื่อ ขึ้นฝั่งด้านนี้ บนถนนหนทางก็ยังมีการสาดน้ำกั
อาหาร มื้อเย็นวันที่ 15 เมษายน 2553 มื้อนี้เรามีความ “พิเศษ” ตรงที่พวเราจะได้เข้าร่วมพิธี “บายศรีสู่ขวัญ” กันด้วย เมื่อได้เวลาแล้ว ก่อนรับประทานอาหาร เราก็ไปรวมกันที่บายศรีอันใหญ่ หมอสู่ขวัญ หรือเรียกว่า หมอทำขวัญบ้านเรา ก็มากันหลายคน อาจจะเป็นเพราะพวกเรามี
หลัง จากนั้นเราก็เริ่มรั
ค่ำ คืนนี้เลยได้รั
No comments:
Post a Comment