Google
 

Monday, June 23, 2008

ภูผาและลำธาร (The Cliff & Jungle Resort) อยู่สุราษฎร์

(The Cliff & Jungle Resort)
(อืม...บรรยากาศน๊ะ...น่าอยู่ เจงๆ Perfect)
เดินทางท่องเที่ยวมาเยอะพอสมควร ไม่ค่อยได้เจอรีสอร์ทที่ถูกใจมากมากแบบนี้เลยสักครั้งเดียว ทำเลอยู่ในหุบเขาใหญ่ เป็นเขาหินปูน แค่รูปทรงของขุนเขาก็กระชากใจเราไปกว่าครึ่งแล้ว อาคารต้อนรับอยู่บนเนิน ที่พักต้องเดินลงไปทางด้านล่างหุบเขา ที่พักมีสามระดับไล่เรี่ยลงไปจนถึงร้านอาหารที่เห็นไกลไกล ผมขอพักแถวบนสุดใกล้สระว่ายน้ำ ตั้งใจตื่นขึ้นมาตอนเช้าจะได้เห็นสายหมอกลอยคลอเคลียยอดเขาและหุบป่าทึบและก็ไม่ผิดหวัง ที่ได้ตื่นขึ้นมานอนฟังเสียงสายหมอกหยอกขุนเขาตั้งแต่เช้ามืด
เก้าโมงเช้าแล้ว สายหมอกยังร่ายรำไม่เสร็จสิ้น
....ผมนอนบนแคร่ไม้ไผ่หน้าห้อง...
ไม่อยากเดินลงไปทานอาหารเช้าเลยอิ่มหมอก
..เดินขึ้นมาทางด้านบนนิดเดียว ก็เห็นวิวสวยสวยของสระน้ำ..
เห็นฝรั่งหนุ่มสาวสองสามคนลงแช่น้ำตั้งแต่เช้ามืด

ยามค่ำคืน

.....นี่เป็นตอนใกล้ค่ำ...

เสียงชะนีร้องเรียก ผัวะ ผัวะ มาจากตรงหน้าผาที่ไกลตา (แต่ใกล้ใจ...) ...บรรยากาศจากในห้องพัก นั่งอ่านหนังสือได้ทั้งวันเลยครับ
ลานหน้าที่พัก ถ้าช่วงเดือนหงาย น่าเอาฟูกมาปูนอน ทักทายยายกับตาที่พระจันทร์ได้เลย
ล๊อบบี้ รีสอร์ท

มีคุณลุงท่าทางกระฉับกระเฉงนั่งรอรับแขกอยู่คนเดียวกลางคืน

นั่งฟังเสียงจักจั่น ได้บรรยากาศบ้านป่ามากมาก

...คืนที่ไป แรม 1 ค่ำด้วย แต่ฝนฟ้าไม่ค่อยอำนวย ได้ชมจันทร์แป๊บเดียว..
มีเมฆไหลลงสู่หุบเขาตั้งแต่สี่ทุ่ม
....ถ้าหูไม่แว่ว...
ได้ยินเสียง แปร๋น ของช้างมาจากที่ไม่ไกลด้วย.

..ผมเดินขึ้นไปบนเนิน ที่ตั้งล๊อบบี้..

มองลงมาจากล๊อบบี้ หมอกหนายามเช้า เป็นทัศนียภาพที่เห็นได้เต็มตา

ถ้าเป็นยามเย็นน่ามานั่งเมาท์กันมากเลยครับ

มองจากตรงกลางทางเดินจากล๊อบบี้...ร่มแดงสามคันคือ สระว่ายน้ำ

..ผมไปกันสองคนกับ 'แสงแรก' ลูกสาวคนเล็กบรรยากาศที่ห้องอาหาร

อยู่ริมผาหินปูน มีแค่ลำคลอง 'สก' ขวางกั้นเอาไว้

ทานอาหารเช้าไปพลาง

แหงนมองเขาหินปูนแกล้มสายหมอกไปพลาง ช่างสุขอะไรอย่างนี้

ขณะนั่งละเลียดอาหารเช้าอย่างอ้อยอิ่ง

....ต้นเสียง แปร๊น ยามดึกดื่น ก็เผยโฉมให้เห็น....

มองจากร้านอาหารริมน้ำขึ้นไปทางบ้านพักที่ตั้งอยู่บนเนินเขา
..เก้าโมงเช้า..
ร้านอาหารขนาดกลาง ซ่อนตัวอยู่ในแมกไม้เขียวชะอุ่ม
มีสายหมอกตั้งเพิงรับเป็นหลังคาอยู่เชิงผา เรือแคนูสีสด
รอรับนักท่องเที่ยวอยู่ทางด้านข้าง

..ที่พักแถวล่างสุด อยู่หว่างต้นยางพารา

(ที่ยังมีการกรีดในตอนเช้า)

และต้นเงาะโรงเรียนใครขี้เกียจเดินขึ้นลงเนิน

ก็เลือกพักที่ตรงนี้ได้สงบน่าผูกเปลนอน...

...บางทีก็มีเพื่อนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่พักอยู่รีสอร์ทอื่น

นั่งเรือท่องธรรมชาติให้เราได้เพลินระหว่างมื้ออาหารด้วย


...มากับลูกสาวทั้งทีก็ไม่อยากขัดใจเค้า....

ล่องสารธารเล่นในยามบ่าย ใช้เวลาสองชั่วโมง ราคา 250 บาท/คน

มีคนคัดท้ายให้ด้วย ก็นับว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจพอสมควร

...ทักทายแขก...อยู่ริมทางเดินขึ้นบ้านพัก





ผมเจอรีสอร์ทนี้โดยบังเอิญจากในเวบ ตัดสินใจจองไปพักเพราะชอบโลเคชั่น ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก แต่พอไปพักจริงกลับชอบมาก ราคาไม่แพงเกินไป พักครั้งที่สองมีลดให้ด้วยโดยไม่ต้องต่อรองเป็นรีสอร์ทที่สวยมากมาก สงบ เรียบง่าย แต่ดูหรูอยู่ในที แอร์ในห้องแทบไม่ต้องเปิดเลยครับเพราะอากาศหนาวกำลังพอดี
ในห้องไม่ค่อยได้ถ่ายภาพมา ..เตียงนอนใหญ่ ถ้าไปสามคนพ่อแม่ลูก คงไม่ต้องใช้เตียงเสริมเลยครับ หน้าห้องเปิดกว้างสู่ขุนเขา (ชอบมาก)ห้องน้ำกับห้องหนัก/เบา แยกอยู่คนล่ะข้างของบ้าน (ตกแต่งน่ารักมาก) เวลาจะเข้าห้องนอนต้องเดินลงบันใดไปทางด้านปีกที่แยกไปทั้งสองข้าง หน้าห้องน้ำเป็นที่เก็บเสื้อผ้า ตู้เย็น อ่างล้างหน้า ทำให้ห้องนอนแยกออกไปเป็นสัดส่วนไม่ปนกัน
หวังว่าเพื่อน ๆ ในนี้คงถูกใจน่ะครับ อ๋อ อีกนิดหนึ่ง
คุณลุงบอกว่า เช็คเอาท์ห้าโมงเย็นได้ครับ
(อันนี้ก็ถูกใจคนชอบนอนยามบ่ายมากครับ อิอิ)
ภูผาและลำธาร (The Cliff & Jungle Resort)
ข้อมูลติดต่อสอบถาม
ที่อยู่ : ถนนสุราษฎร์-ตะกั่วป่า กิโลเมตรที่ 97
ตำบลคลองศก
อำเภอพนม
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โทรศัพท์ : 0 7720 1151-9, 08 7271 8787
จำนวนที่พัก : 30 ห้อง ราคาสูงสุด-ต่ำสุด : 1,800 - 1,800 บาท
ผมไปพักครั้งแรก 1800 แต่พอไปครั้งที่สอง เขาลดให้ 1600 พร้อมอาหารเช้า 2 ที่ครับถ้ามีเวลา จะทำภาพมาเพิ่มครับ การเดินทางค่อนข้างสะดวกครับ
- จากสนามบินสฏ. ขับรถมาทางสายเอเชีย (สาย 41) มุ่งลงใต้ ผ่าน โคออป ระยะทางช่วงนี้ ราว สิบกว่า กม. จะถึงสี่แยกใหญ่ มีสะพานลอยรถ (สะพานลอยอยู่บนสาย 41) เลี้ยวขวาลอดใต้สะพาน เพื่อเข้าสู่เส้นทางสาย 401 ที่มุ่งสู่ตะกั่วป่า ถนนช่วงนี้กำลังปรับเป็นสี่เลน แต่ก็สะดวกพอสมควร ช่วงนี้ระยะทางประมาณ 80 กม. ไม่ต้องเลี้ยวที่แยกใดใดทั้งสิ้น พุ่งตรงไปทางทิศตะวันตกตลอด
พออีก 10 กม. จะถึงอุทยานเขาสก(ภาคพื้นดิน ไม่ใช่กุ้ยหลิน) จะเห็นทางเข้ารีสอร์ทอยู่ทางด้านซ้ายมือ ป้ายใหญ่มองเห็นชัด(แต่จากถนนจะมองไม่เห็นรีสอร์ท) กลางคืนไฟส่องสว่าง เป็นถนนราดยางอย่างดี เข้าไปแค่ 50 เมตร ก็จะเห็นสวรรค์แล้วครับ





No comments: