Saturday, January 26, 2008
ปริญญาวิชาชีพกับปริญญาชีวิต
ที่เมืองไทยปีที่แล้วมีข่าวเกรียวกราวมาก คือมีดาราคนหนึ่งซึ่งมีชื่อดังมาก เป็นคนดำเนินรายการคนค้นคน ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร นะ มาเรียนที่อเมริกา เป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิส ทำงานทุกอย่างต้องดูดีที่สุดแม้กระทั้งล้างจาน ล้างเสร็จแล้วแกต้องเอามาดมดู ว่าสะอาดจริงมั้ย กลับไปเมืองไทยก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มีแฟนก็จีบดาวมหาวิทยาลัยเลย ต้องให้ดีที่สุด เวลาแกไปเสนองานอะไรต่าง ๆ เขียนไว้สามแผน แผนที่หนึ่งลูกค้าไม่ซื้อ แกเสนอแผนที่สอง แผนที่สองลูกค้าไม่ซื้อแกเสนอแผนที่สาม ใครไปดีลงานกับแกติดทุกราย แกมีบ้าน มีรถ มีลูก มีภรรยา มีธุรกิจ มีชื่อเสียงทุกอย่าง แกมีทุกอย่าง วันหนึ่งแกพักผ่อน หลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักเลย ลุกเมียไปขอพบ บอกไปเจอพ่อที่ออฟฟิต วันหนึ่งแกไปพักที่ปากช่อง ตื่นขึ้นมากลางวันล้มฟุ๊บลงไป ภรรยาพาเข้าโรงบาล ตรวจพบมะเร็ง พอพบปุ๊บเป็นระยะสุดท้ายเลย จริง ๆ เค้าก็เตือนตลอด แต่พอไม่มีเวลาไปตรวจมันก็แก้ไม่ได้ แกไปนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วก็สารภาพให้รายการคนค้นคน บันทึกชีวิตแก ก่อนจะเสียชีวิต แกก็ไปนอนให้พ่อแม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว แกก็บอกว่าสังเวชตัวเองมากแทนที่ลูกจะได้ดูแลพ่อแม่ กลับมาเป็นว่าพ่อแม่ต้องมาดูแลลูก ก่อนจะเสียชีวิตแกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึกบอกว่า พ่อผมเคยบอกว่า เกิดเป็นคนต้องได้ปริญญาสองใบ ปริญญาใบที่หนึ่ง "ปริญญาวิชาชีพ" เราจะต้องทำมาหากินเป็น กินอิ่ม นอนอุ่น พูดง่าย ๆ ล้วงไปในกระเป๋าแล้วมีเงินใช้ อยากจะนอนมีบ้านเป็นของตัวเอง แค่นี้คือปริญญาวิชาชีพ แต่"ปริญญาวิชาชีวิต" ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้แกบอกว่าผมสอบตกโดยสิ้นเชิง ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตกเพราะอะไร เพราะทำงานจนป่วยตาย ก่อนที่จะเสียชีวิตแกได้สารภาพว่าผมได้เตรียมทุกอย่าง บ้าน รถ มอบมันให้กับลูกและภรรยา แต่ในวันที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง ผมกลับลืมมอบหนึ่งอย่างให้กับลูกและภรรยา สิ่งนั้นคือสิ่งที่ผมลืมและทำให้ผมล้มเจ็บใหญ่ครั้งนี้ สิ่งที่ว่านี้คือผมลืมมอบตัวเองเป็นของขวัญให้กับลูกและเมีย เพราะทำงานหนักจนกระทั่งป่วยตาย นี่คือปริญญาวิชาชีวิต ธรรมะเราจะต้องมี ถ้าเราไม่มีธรรมะ เราจะกลายเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นเองที่ทำงานแทบล้มประดาตายแล้วสุขภาพไม่ดีดังนั้นเมื่อเราทุกคนทำงานแล้ว อย่าลืมชั่วโมงสุขภาพของตัวเองในแต่ละวันนะ แต่ละวันควรจะมีให้ดูแลตัวเอง ดูจิต ดูใจตัวเอง ว่าเราเอ๊ะมันทุกข์มันทุกข์มากเกินไปรึเปล่า แบกเรื่องโน้นเรื่องนี้ เกินไปหรือเปล่าพยายามลดลงในแต่ละวัน ๆ เพื่อที่ว่าอะไร เพื่อที่ว่าเราจะได้ปริญญาสองใบในชีวิตหนึ่งปริญญาวิชาชีพเราทำมาหากินจนประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่งมีเงินมีทองใช้มีบ้านอยู่ แต่ต้องไม่ลืมปริญญาใบที่สอง คือวิชาธรรมะ สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง ไม่ทุกข์เกินไปไม่เดือนร้อนเกินไป ทำอะไรให้พอดี พอดีอยู่ดีมีสุขอยากเที่ยวให้ได้เที่ยว อยากพักให้ได้พัก อยากทำบุญให้ได้ทำบุญลูกหลานมาหาก็ให้ได้มีเวลากับลูกกับหลานบ้าง อย่าวิ่งไปจนซ้ายสุด ขวาสุด และมารู้สึกตัวอีกทำจนล้มเจ็บใหญ่ไม่ดี เพราะอะไร เพราะว่าสิ่งสูงค่าทีสุดในชีวิตของเรา เคยมีคนไปทูลถามพระพุทธเจ้า ว่าอะไรคือสิ่งสูงค่าที่สุด บางคนก็ตอบเงิน บางคนก็ตอบเพชร บางคนก็ตอบทอง บางคนก็ตอบอำนาจ บางคนก็ตอบราชบัลลังก์ พระพุทธเจ้าบอกไม่ใช่ สิ่งสูงค่าที่สุดในชีวิตของพวกเธอคือสุขภาพและชีวิตสุขภาพก็คือการที่เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย คนที่สุขภาพดีดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อยนะ และก็ชีวิตของเรา
Tuesday, January 22, 2008
ตาต้า นาโน (Tata Nano) ประมาณ 75,000 บาท
ในปี 2550 สำนักข่าวเอบีซีของประเทศออสเตรเลียเคยรายงานเอาไว้ว่า ในประเทศอินเดียที่มีประชากรราว 1,100 ล้านคนนั้น อัตราการมีรถยนต์ส่วนตัวใช้ยังนับว่าต่ำมาก คือมีสัดส่วนรถยนต์ส่วนตัว 7-8 คันต่อประชากร 1,000 คน ผิดกับในหลายประเทศซีกโลกตะวันตกที่มีรถส่วนตัว 300-500 คันต่อประชากร 1,000 คน กระนั้นก็ตามจากสภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียทำให้มีการคาดการณ์ว่า ภายในปี พ.ศ. 2553 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า จำนวนยอดขายรถยนต์ส่วนบุคคลในอินเดียจะเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 2 ล้านคันต่อปี เฉพาะในกรุงนิวเดลีเมืองหลวง มีสถิติว่า ทุกๆ ปีจะมีจำนวนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลออกใหม่มาวิ่งแย่งชิงพื้นที่บนถนนกับบรรดารถลาก วัว และมอเตอร์ไซค์ มากกว่า 200,000 คัน บริษัทวิจัย แมคคินซีย์ให้เหตุผลอธิบายว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชนชั้นกลางที่มีรายได้เพิ่มขึ้นของอินเดียมีแนวโน้มเพิ่มจำนวน 10 เท่าจาก 50 ล้านคนในปี 2550 เป็น 583 ล้านคนในปี 2568 ฉะนั้นตลาดรถยนต์ราคาประหยัดจึงพุ่งแรงเป็นอย่างยิ่ง นักวิเคราะห์ในวงการรถยนต์ของอินเดียกล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ตลาดรถยนต์มือสองไม่เป็นที่นิยม ก็เป็นอีกเหตุผลที่เกื้อหนุนให้ตลาดรถใหม่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
นายราทัน ตาต้า ประธานบริษัท ตาต้า มอเตอร์ส ซึ่งกำลังทาบทามซื้อกิจการรถยนต์หรูยี่ห้อจากัวร์และแลนด์ โรเวอร์ จากบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ อยู่ในเวลานี้ กล่าวถึง "นาโน" รถเล็กราคาถูกที่สุดในโลกของเขา (ข้อมูลจำเพาะโปรดติดตามอ่านหน้า 54 ) ว่า นี่คือความสำเร็จและเป็นข้อพิสูจน์ว่าบริษัท ตาต้า มอเตอร์ส สามารถผลิตรถของประชาชนออกมาได้โดยไม่ตกมาตรฐานทั้งด้านความปลอดภัยและการปล่อยไอเสีย ซึ่งหลายฝ่ายกังวลกันอยู่ ด้านความเห็นภาคประชาชนคนซื้อรถนั้น ปฏิกริยาแรกนับว่าการตอบรับดีมาก จากการที่รถนาโนมีรูปลักษณ์น่าสนใจ ราคาไม่แพงและประหยัดน้ำมัน หลายคนในกลุ่มผู้ชมงานมอเตอร์โชว์กล่าวว่า ถ้าให้เลือกระหว่างมอเตอร์ไซค์ 30,000 รูปี กับรถตาต้า นาโน 100,000 รูปี ก็ขอเลือกซื้ออย่างหลังดีกว่า
รถของประชาชน : ตาต้า นาโน เปิดตัวไม่ทันไรก็เป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก สำหรับคนเดินดินรายได้ปานกลางที่ฝันอยากมีจะรถส่วนตัวไว้ใช้มาเนิ่นนาน นี่คือฝันเป็นจริงกลางวันแสกๆ ชีวิตนี้เห็นจะไม่ต้องโหนตัว ทรงตัว ราวนักกายกรรมจำเป็นบนรถเมล์ รถไฟ และอีกสารพัดขนส่งมวลชนที่แออัดยัดทะนานพอๆ กันอีกต่อไป แต่คนอีกจำนวนหนึ่งกำลังปริวิตกว่า ฝันร้ายมาเยือนเข้าให้แล้ว ยิ่งคิดถึงสภาพการจราจรในเขตเมืองใหญ่ของอินเดีย ที่ยัดเยียดไปด้วยยวดยานและคนเดินถนน คละเคล้าปะปนด้วยเสียงบีบแตรในทุกอณูอากาศ ก็ยิ่งชวนให้ขนลุก
เห็นข่าวแล้วก็ตกใจ กับรถยนต์“นาโน” พีเพิลส์คาร์ จากค่ายตาต้า มอเตอร์ส ค่ายรถยักษ์ใหญ่แดนภารตะ ที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเขาไปเมื่อวาน เมื่อกดเครื่องคิดเลขดูแล้ว คิดเป็นเงินไทยเพียง 75,000-80,000 บาท ใช่ครับ รถเก๋งหลักหมื่น สุดยอดไม๊หล่ะมาดูสเปกของนาโน พีเพิลส์คาร์กันนะครับพีเพิลส์คาร์ ถูกออกแบบโดยใช้ความต้องการของทุกครอบครัวเป็นที่ตั้ง ด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ที่วางเท้า และที่ว่างเหนือศีรษะ มีความกว้าง....
เผยโฉมแล้ว TATA NANO รถยนต์นั่ง 4 ที่นั่งราคาที่ถูกที่สุดในโลกเพียง 74,000 บาท ถล่มวงการรถยนต์ทั่วโลก
นี่คือปรากฏการณ์ครั้งใหม่ที่วงการรถยนต์ควรจดจำเหมือนที่สมัย Ford ได้บรรลุควิธีการผลิตรถแบบแมส หรือ VW สร้างโฟล์คเต่าเพื่อให้มีประชาชนมีรถใช้ดังนั้น TaTa ณ ปัจจุบันสร้างปรากฏการณ์รถยนต์ที่ "ทุกๆคนสามารถซื้อใช้ได้" ซึ่งยังเป็นรถที่มีมาตรฐานอยู่
1. เครื่องยนต์ 624 cc 2 สูบ 33 แรงม้า การปล่อยอากาศเสียดีกว่ามอเตอร์ไซค์ (แค่ไหน.. ไม่รู้)
ด้วยความที่ ตาต้า อินเดีย ยังไม่ลงภาพเพรสรีลีสหรือรายละเอียดของคันนี้ทำให้เราต้องหาภาพอย่างทุลักทุเลเพราะสื่อมวลชนอินเดียเกือบทุกแขนงให้ความสนใจต่อการเปิดตัว TATA NANO เป็นอย่างมากถึงขนาดถ่ายทอดสดการเปิดตัวผ่านช่อง CNN กันเลยทีเดียวรูปร่างหน้าตากับรถแค่$2,500 หรือ 74,000 บาท (ตามอัตราค่าเงินบาท ณ วันนี้)รวมภาษีรวมอะไรต่อมิอะไรเรียบร้อยแล้ว ถือว่าสอบผ่านในแง่ความเป็นกลางคือดูไม่น่าเกลียดอย่างที่คิดกลับกันสวยกว่าที่คิดไว้เยอะเพราะการออกแบบคือต้นทุนอย่างหนึ่งนั่นเองความเจ๋งของตัวนี้คือ "เครื่องวางหลัง ขับหลัง" เครื่องยนต์เบนซิน 624 ซีซี ให้กำลัง 33 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน 30 กม./ลิตร ส่งถ่ายด้วยเกียร์ธรรมดา 4 สปีด อุปกรณ์มาตรฐานที่ค้างคาใจทุกฝ่าย ก็ไม่ได้น้อยหน้าอย่างที่คิดทุกรุ่นติดตั้งเครื่องปรับอากาศและพวงมาลัยพาวเวอร์ให้ทุกรุ่นระบบเบรคหน้าดิสก์ หลังดรัม
"พีเพิลส์คาร์" เก๋งนาโน ราคาเพียง 7.5 หมื่นบาท เห็นข่าวแล้วก็ตกใจ กับรถยนต์“นาโน” พีเพิลส์คาร์ จากค่ายตาต้า มอเตอร์ส ค่ายรถยักษ์ใหญ่แดนภารตะ ที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเขาไปเมื่อวาน เมื่อกดเครื่องคิดเลขดูแล้ว คิดเป็นเงินไทยเพียง 75,000-80,000 บาท ใช่ครับ รถเก๋งหลักหมื่น สุดยอดไม๊หล่ะ
มาดูสเปกของนาโน พีเพิลส์คาร์กันนะครับพีเพิลส์คาร์ ถูกออกแบบโดยใช้ความต้องการของทุกครอบครัวเป็นที่ตั้ง ด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ที่วางเท้า และที่ว่างเหนือศีรษะ มีความกว้างขวาง เพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 4 ท่าน เป็นรถแบบ 4 ประตู ช่วยให้การเข้าออกรถมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยความยาว 3.1 เมตร กว้าง 1.5 เมตร และสูง 1.6 เมตร พร้อมพื้นตัวถังที่สูงห่างจากพื้นถนนอย่างพอเหมาะ ทำให้รถคันนี้สามารถฝ่าการจราจรที่คับคั่งในเมืองใหญ่ หรือพื้นที่ในถิ่นทุรกันดาร ได้อย่างคล่องตัวยิ่งกว่า ภายใต้การออกแบบ ที่เรียกว่า “โมโน-โวลุ่ม” จัดวางล้อที่สุดปลายมุมทั้ง 4 ด้านของตัวถัง เครื่องยนต์วางท้าย ช่วยให้รถคันนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในเรื่องของพื้นที่ภายในห้องโดยสาร และความคล่องตัวในการขับขี่ นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ขนาดเล็กในตลาดโลก
ตาต้า จะเปิดตัวรถรุ่นนี้พร้อมกัน 2 รุ่น คือรุ่นสแตนดาร์ด และรุ่นเดอลุกซ์ มีสีให้เลือกอย่างหลากหลาย พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งอีกมากมาย เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถตกแต่งรถที่แสดงความเป็นตัวตนได้ตามความต้องการเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน
รถ พีเพิลส์คาร์ เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง เครื่องยนต์อลูมินั่ม 2 สูบ 623 ซีซี 33 แรงม้า จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดแบบมัลติพอยต์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในโลก ที่มีการนำเครื่องยนต์เบนซินแบบ 2 สูบ ซิงเกิ้ลบาลานซ์ชาฟต์ มาติดตั้งในรถยนต์นั่ง ด้วยการออกแบบอย่างชาญฉลาดที่เน้นการใช้งานจริง ช่วยให้เครื่องยนต์มีน้ำหนักเบา แต่ให้พลังงานสูงสุด น้ำมันทุกหยดถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์
รถ พีเพิลส์คาร์ มีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงกว่าข้อกำหนดของมาตรฐานความปลอดภัยที่ใช้อยู่ทั่วไป ด้วยโครงสร้างตัวถังเหล็กกล้าทั้งคัน ถูกออกแบบให้ห้องโดยสารมีความแข็งแกร่ง พร้อมจุดเด่นในเรื่องความปลอดภัยครบครัน อาทิ Crumple Zones โครงสร้างที่ถูกเสริมความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ปกป้องห้องโดยสารให้คงรูปและให้ความปลอดภัยสูงสุด Intrusion-resistant doors โครงสร้างเสริมความแกร่ง ในประตูทั้ง 4 บาน, เข็มขัดนิรภัย, เบาะนั่งที่แข็งแรง, กระจกท้ายเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างประตู และยางเรเดียลที่ให้การยึดเกาะเป็นเยี่ยม และเหมาะสมกับการใช้งานในทุกสภาพถนน
รถ พีเพิลส์คาร์ เป็นรถที่มีมลพิษต่ำกว่าค่ากำหนดมาตรฐาน ซึ่งหากเทียบกับค่ามลภาวะทั่วไป รถคันนี้ปล่อยไอเสียที่มีค่ามลพิษต่ำมาก ต่ำกว่าไอเสียที่เกิดจากรถจักรยานยนต์ในอินเดีย และด้วยเครื่องยนต์อันทรงประสิทธิภาพ มั่นใจได้ว่ารถคันนี้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่ต่ำ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ถึง 2 ทางคือ การเดินทางที่ประหยัด และมีมลพิษต่ำ
ค่ายตาต้า มอเตอร์สเองก็ยื่นขอสนับสนุนการลงทุนผลิตรถอีโคคาร์ ในเมืองไทยเช่นกัน ไม่รู้ว่าเจ้านาโนคาร์จะเป็นร่างจำแลงของอีโคคาร์ ของค่ายตาต้าหรือไม่ เพราะว่านาโน พีเพิลส์คาร์สามารถทำเงื่อนไขอีโคคาร์ของเราได้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (Fuel Consumption) ที่ 20 กม./ลิตร แต่เรื่องมาตรฐานไอเสียยูโร4 ต้องมาดูกันอีกที
หากนำเข้าแบบประกอบเสร็จทั้งคัน (CBU) ราคาก็คงประมาณ 1.5แสนบาท แต่ตาต้าก็อาจจะเลือกประกอบในไทย เพื่อใช้เป็นฐานในการผลิตป้อนอาเซียน โดยใช้โรงงานเดียวกับที่จะขึ้นไลน์ผลิตปิกอัพ
อย่างไรก็ตาม ราคาหลักแสนต้นๆ แม้ไม่มีแอร์ ไม่มีเครื่องเสียง หรือ อ.ว.ท.ม.อะไรก็แล้วแต่ มันก็น่าสนสำหรับคนตัวเล็กใช้เดินทางไปจ่ายตลาดใกล้บ้านครับ
Sunday, January 13, 2008
อัตราแลกเปลี่ยนประจำวัน 12 มกราคม 2551
ดอลลาร์ สหรัฐ 33.30 บาท
เยน ญี่ปุ่น(100) 30.70 บาท
ยูโร 49.01 บาท
ปอนด์ อังกฤษ 65.35 บาท
หยวน จีน 4.59 บาท
ดอลลาร์ ฮ่องกง 4.28 บาท
ดอลลาร์ ออสเตรเลีย 29.58 บาท
ดอลลาร์ สิงค์โปร์ 23.39 บาท
เบนซิน 95 33.69 บาท
เบนซิน 91 32.39 บาท
น้ำมันดีเชล 29.74 บาท
ราคาทองคำ รับซื้อ ขายออก
ทองคำแท่ง 13,800 บาท 13,900 บาท
ทองรูปพรรณ 13,598.52 บาท 14,300 บาท
กรรมเหนือหมอดู
ผมเป็นศิษย์โหร แต่มิได้เป็นโหร หลวงพ่อเจ้าคุณพระภัทรมุนี หรือมหาอิ๋น เจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ ธนบุรี (สมัยนั้น) เป็นโหราจารย์ชั้นยอด สมัยนั้นมีโหราจารย์ที่ดังอยู่เพียงสองท่านเท่านั้น คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) ซึ่งต่อมาเป็นสมเด็จพระสังฆราช อีกรูปหนึ่งคือพระภัทรมุนี
Friday, January 11, 2008
ลาวเปี๊ยนไป๋ นศ.สาวเอาอย่างรัดติ้วโชว์ตู้ม
ภาพจากแฟ้ม-- น้องๆ จากวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งกำลังฝึกซ้อมเตรียมการแสดงเต้นรำที่ลานวัดพระธาตุหลวง ปัจจุบันนักศึกษาหญิงกล้าเปิดเผย กล้าแสดงออกมากขึ้น
สื่อของทางการลาวสุดทน ออกสับแหลกนักเรียนนักศึกษาที่ "หลงผิด" พากันแต่งเนื้อแต่งตัวประหลาดๆ ไปเรียนหนังสือโดยคิดว่าตัวเองทันสมัย ทั้งๆ ที่สิ่งที่แสดงออกมาสะท้อนจิตใจการเป็นทาสตะวันตก ส่วนเมืองหลวงพระบางนั้น องค์การยุวชนที่นั่นได้ออกเป็นระเบียบปฏิบัติทางวัฒนธรรม พร้อมข้อห้ามไม่ให้นักเรียนนักศึกษาที่โกรกผมสี สวมกางเกงยีนส์ หรือสวมเสื้อชายสั้นเอวลอย นุ่งเข้าวัด กับสถานที่เคารพบูชาแห่งต่างๆ ทั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่จะอนุรักษ์วัฒนธรรมของชาติ สำหรับนครหลวงเวียงจันทน์ อิทธิพลตะวันตกแพร่ลามอย่างกว้างขวาง เยาวชนจำนวนหนึ่งได้เริ่มลอกเลียนแบบ โดยหลงเชื่อว่าเป็นความเท่ นักศึกษาชายที่เคยแต่งกายสุภาพเรียบร้อยถูกต้องตามแบบแผนวัฒนธรรม มีจำนวนมากเริ่มเปลี่ยนไปเป็นสวมเสื้อเปิดหน้าอก ทำผมทรงโมฮ๊อก ชอบเอาหนังสือยัดเข้าประเป๋ากางเกง สำหรับนักศึกษาหญิงยิ่งหนักกว่านั้น..
สื่อของทางการยังกล่าวอีกว่า ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ได้ชี้ให้เห็นว่าความทันสมัยหรือนำสมัยนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแต่งกาย ตรงกันข้ามจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถฉลาดหลักแหลม มีความตื่นตัวต่อทุกสภาพการณ์ในสภาพแวดล้อมสังคม พร้อมทั้งได้แนะนำให้นักเรียนนักศึกษาและเยาวชนของชาติได้นำแง่คิดนี้ไปพิจารณา
เวียงจันทน์ใหม่กล่าวอีกว่า แต่ดั้งแต่เดิมนั้นนักเรียนนักศึกษาของลาวเป็นกลุ่มที่เข้มงวดกวดขันตัวเองมากที่สุดให้ถูกต้องตามระเบียบวินัยของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่สังกัด ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายหรือการไว้ผม เล็บเท้าและเล็บมือ ซึ่งต้องตัดสั้นให้มีความสวยงาม รักษาความสะอาดง่าย
"ส่วนเครื่องแต่งกายนั้นบางคนแม้ว่าจะเก่าแต่ก็สะอาด สำหรับการเดินทางไปเรียนนั้น หากอยู่ใกล้ก็จะเดินไป ถ้าอยู่ไกลก็ปั่นจักรยาน หรือขอไปกับคนอื่นด้วยก็ได้”
ภัยที่ผู้หญิงต้องระวัง
ตำรวจโชว์ฝีมือรวบแก๊งรถตู้ภัยสังคมรายนี้เปิดเผยขึ้น เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ธน ยุติธรรมดำรง รอง ผบก..ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.สีหศักดิ์ สร้อยศรี ผกก.สภ.แหลมฉบัง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งรถตู้โฉด จำนวน 4 คน ประกอบด้วยนายเสรี ภิรมย์ปั่น อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/15 หมู่ 8 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี นายประเสริฐ แจ่มใส อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 14 ต.เกาะจันทร์ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี นายอาร์ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี มีบ้านพักอยู่ จ.ชลบุรี และนายเก่ง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี มีบ้านพักอยู่ จ.นนทบุรี พร้อมของกลางเป็นรถยนต์ตู้โตโยต้า สีเขียวอ่อน หมายเลขทะเบียน นค-2359 ชลบุรี, อาวุธมีด 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ โดยที่ทาง สภ.แหลมฉบังได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากพนักงานสาวของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังว่า มีคนร้ายเป็นแก๊งรถตู้ฉุดขึ้นรถแล้วปลดทรัพย์สินไป และยังรุมข่มขืนนำโทรศัพท์มือถือถ่ายคลิป และบังคับให้บอกรหัสเอทีเอ็ม ไปกดเงินจนเกลี้ยง ทางชุดสืบสวน สภ.แหลมฉบัง จึงได้ออกทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายจนสามารถได้เบาะแสและจับกุมตัวได้ในเวลาแค่เพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงต่อไปว่า สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายแก๊งนี้ก่อนก่อเหตุได้ทำทีเป็นคนขับรถตู้รับส่งพนักงานในโรงงานในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของชลบุรี ออกตระเวนหาเหยื่อซึ่งเป็นหญิงสาวโรงงานที่ยืนรอรถประจำทางไปทำงานในช่วงเวลาเช้า เมื่อพบว่าหน้าตาดีและสวมใส่เครื่องประดับมีราคาก็จะร่วมกันใช้กำลังฉุดกระชากขึ้นรถตู้และใช้หมวกปิดหน้าตาของเหยื่อ ก่อนทำการปลดทรัพย์สินที่ติดตัวมาพร้อมทั้งบังคับให้บอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม และนำไปกดเงิน จากนั้นก็นำตัวขึ้นรถขับรถไปเรื่อยๆ และระหว่างทางก็ผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนและยังถ่ายคลิปวีดีโอ ไว้เพื่อขู่บังคับไม่ให้เหยื่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนปล่อยตัวลงกลางทาง
เมื่อได้ทรัพย์สินก็จะนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพและเที่ยวเตร่ตามสถานบริการ เมื่อหมดเงินก็จะก่อเหตุอีก ซึ่งทางตำรวจ สภ.แหลมฉบัง ได้พยายามเร่งติดตามหาตัวคนร้ายแก๊งนี้จนกระทั่งพบจากกล้องทีวีวงจรปิดร้านทองแห่งหนึ่งที่คนร้ายนำบัตรเครดิตของเหยื่อลงไปซื้อทองคำรูปพรรณในพื้นที่ สภ.แหลมฉบัง แล้วนำไปขยายความชัดของภาพถึงบริษัทกันตนาที่กรุงเทพฯ จนพบว่ารถตู้ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุไฟเลี้ยวด้านหน้าฝั่งคนขับแตก จึงให้ตำรวจในพื้นที่คอยสอดส่องรถตู้ในลักษณะดังกล่าว
กระทั่งพบกำลังวิ่งวนเวียนในแถบตลาดสี่มุมเมือง แหลมฉบัง จึงเข้าตรวจค้นจนพบว่าเป็นแก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว โดยผู้ต้องหาให้การสารภาพว่าในช่วงเดือนธันวาคม 2550 ได้ก่อเหตุในพื้นที่อำเภอศรีราชา 2 ครั้งและอำเภอบางละมุง 1 ครั้ง ทุกครั้งจะปลดทรัพย์สินของเหยื่อและรุมข่มขืนถ่ายคลิปไว้เพื่อให้เหยื่อไม่กล้าแจ้งความเพราะอับอาย และจะเลือกลงมือกับหญิงสาวหน้าตาดีที่มีทรัพย์สินติดตัวเป็นทองรูปพรรณสวมใส่อยู่ และเป็นสาวโรงงานที่ยืนรอรถตู้ประจำทางไปทำงานโรงานในช่วงเช้า ซึ่งเห็นว่าทำแล้วรายได้ดีเพราะเหยื่อบางคนมีเงินฝากหลายหมื่นบาท ซึ่งได้จากการนำบัตร เอทีเอ็มของเหยื่อไปกดตามตู้ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า คนร้ายแก๊งนี้น่าจะก่อเหตุมาหลายสิบครั้งแล้ว เนื่องจากการก่อเหตุแต่ละครั้งสร้างความอับอายแก่ผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาว ทำให้เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายที่เป็นหญิงไม่กล้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายราย จึงอยากให้ผู้เสียหายที่ถูกก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วรีบมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ต้องหาทั้งหมด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
ที่มา บ้านเมือง
Thursday, January 10, 2008
อัตราแลกเปลี่ยนประจำวัน 10 มกราคม 2551
ดอลลาร์ สหรัฐ 33.43 บาท
เยน ญี่ปุ่น(100) 30.70 บาท
ยูโร 49.25 บาท
ปอนด์ อังกฤษ 66.03 บาท
หยวน จีน 4.62 บาท
ดอลลาร์ ฮ่องกง 4.31 บาท
ดอลลาร์ ออสเตรเลีย 29.42 บาท
ดอลลาร์ สิงค์โปร์ 23.50 บาท
เบนซิน 95 33.69 บาท
เบนซิน 91 32.39 บาท
น้ำมันดีเชล 29.74 บาท
ราคาทองคำ รับซื้อ ขายออก
ทองคำแท่ง 13,750 บาท 13,850 บาท
ทองรูปพรรณ 13,553.04 บาท 14,250 บาท
Wednesday, January 9, 2008
"บัวหลวง" เล็งโขกค่าธรรมเนียม "เอทีเอ็ม" รับปีใหม่ กดข้ามแบงก์เจอทันที 5 บ.
แบงก์กรุงเทพใจกล้า ประกาศขึ้นค่าธรรมเนียมกดเอทีเอ็มข้ามธนาคารเกินกว่า 4 ครั้งต่อเดือน เป็นครั้งละ 5 บาทต่อรายการ จากเดิม 3 บาท และเก็บค่าธรรมเนียมกดเอทีเอ็มข้ามธนาคารข้ามเขตในต่างจังหวัด เป็น 25 บาทจาก 20 บาท ขณะที่แบงก์อื่นไม่ขยับ ด้านผู้บริหารธปท.ยอมรับคุมไม่ได้ เหตุต้นทุนการดำเนินธุรกิจแต่ละแห่งต่างกัน เผยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างวางแผนที่จะรื้อระบบค่าธรรมเนียมแบงก์ทั้งหมด ให้เหมาะสมกับต้นทุนที่แท้จริง
แหล่งข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2550 ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ได้เตรียมปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการให้บริการถอนเงินข้ามธนาคารผ่านเอทีเอ็มระหว่างธนาคารเพิ่มขึ้นเป็นครั้งละ 5 บาทต่อรายการ จากตามปกติ หากประชาชนผู้ถือบัตรเอทีเอ็ม กดเงินจากเอทีเอ็มของต่างธนาคารในแต่ละเดือนเกินกว่า 4 ครั้ง ครั้งต่อไปจะเก็บค่าบริการครั้งละ 3 บาทต่อรายการ และปรับเพิ่มค่าบริการการกดเงินข้ามธนาคารผ่านเอทีเอ็มในต่างจังหวัด จากเดิมครั้งละ 20 บาทต่อรายการ เป็น 25 บาท โดยในขณะนี้พบว่ามีเพียงธนาคารเดียวที่ปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมดังกล่าว
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การปรับ ขึ้นค่าธรรมเนียมจาก 3 บาทเป็น 5 บาท หากลูกค้าเบิกถอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารอื่นเกิน 4 ครั้งนั้น จะทำให้ผู้ถือบัตรเอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพจะต้องเสีย ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 2 บาทต่อรายการ ซึ่งน่าจะกระทบต่อลูกค้าจำนวน มาก เนื่องจากธนาคารกรุงเทพเป็นธนาคารขนาดใหญ่มีลูกค้าผู้บัตร เอทีเอ็มมากกว่า 5 ล้านบัตร และมีบัตรเดบิตอีกประมาณ 1.4-1.5 ล้านบัตร
ด้านผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ กล่าวยอมรับว่า การปรับเพิ่มอีก 2 บาท และขยายเวลาให้อีก 1 วันนั้น เพราะลูกค้าของธนาคารมีมากและใช้บริการธนาคารอื่นประมาณ 70-80% ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายในการชำระเงินกันสูง และการปรับขึ้นมา ก็น่าจะทำให้ลดภาระและทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยแค่ 30-50 ล้านบาท
เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังธนาคารอื่น เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารไทยธนาคาร และธนาคารไทยพาณิชย์ พบว่ายังคงเก็บค่าบริการการกดเอทีเอ็มต่างธนาคารทั้งในเขตเดียวกัน และข้ามเขตในต่างจังหวัด สำหรับบัตรเอทีเอ็มของธนาคารในอัตราเดิม ยังไม่ได้ปรับขึ้นค่าบริการแต่อย่างใด
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สอบถามฝ่ายระบบการชำระเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ถึงการปรับขึ้นค่าบริการดังกล่าว ซึ่งฝ่ายชำระเงิน ธปท.ชี้แจงว่า การเก็บค่าบริการการกดเอทีเอ็มข้ามธนาคารนั้น ธปท.ไม่ได้มีการกำหนดค่าบริการ และการขึ้นค่าบริการดังกล่าวนั้น ไม่จำเป็นต้องขอมายัง ธปท.ก่อนการปรับขึ้น เพียงแต่จะต้องประกาศการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวให้ลูกค้าทราบอย่างน้อยที่สุด 30 วัน โดยแปะประกาศการปรับขึ้นไว้ในที่เห็นชัดเจน ที่บริเวณสาขาของธนาคารพาณิชย์นั้นๆ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธนาคารกรุงเทพนั้น ยืนยันว่าได้มีการแปะประกาศดังกล่าวให้ลูกค้าทราบแล้ว ก่อนการปรับขึ้น 30 วัน โดยเป็นการประกาศที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารกรุงเทพ และสาขาสำคัญๆ ซึ่งหากเป็นไปตามเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนด การปรับขึ้นก็เป็นเรื่องของแต่ละธนาคารที่สามารถทำได้ เพราะอาจจะมีความจำเป็นทางต้นทุนที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะธนาคารกรุงเทพ เป็นธนาคารขนาดใหญ่ มีลูกค้าที่ใช้บัตรเอทีเอ็มมากที่สุดเป็นอันดับแรก หากลูกค้านำเอทีเอ็มของธนาคารไปกดที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารอื่น ธนาคารกรุงเทพจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับธนาคารที่ให้บริการ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการปรับขึ้นค่าบริการ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและลดปริมาณการกดเอทีเอ็มต่างธนาคารของลูกค้าไปในตัวด้วย
นายฉิม ตันติยาสวัสดิกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายระบบข้อสนเทศ ธปท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ธปท.อยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนาระบบชำระเงินฉบับใหม่ที่จะเริ่มต้นในปี 2553 ซึ่งจะเป็นการรื้อระบบอัตราค่าธรรมเนียมของระบบธนาคารพาณิชย์ที่เกี่ยวกับการชำระเงิน และอัตราค่าธรรมเนียมส่วนอื่น ที่ฝ่ายนโยบายสถาบันการเงินดูแลอยู่ เพื่อที่จะทำให้ระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับต้นทุนของการให้บริการจริง โดยในเบื้องต้น ธปท.ต้องการให้เกิดการแข่งขันในการเก็บอัตราค่าธรรมเนียมไม่ให้ฮั้วกัน หรือมีการผูกขาดจัดเก็บในอัตราเดียวกันทุกธนาคาร เพราะทำให้ประชาชนไม่มีทางเลือกและเสียประโยชน์
อัตราแลกเปลี่ยนประจำวัน 9 มกราคม 2551
ดอลลาร์ สหรัฐ 33.50 บาท
เยน ญี่ปุ่น(100) 30.70 บาท
ยูโร 49.44 บาท
ปอนด์ อังกฤษ 66.14 บาท
หยวน จีน 4.62 บาท
ดอลลาร์ ฮ่องกง 4.31 บาท
ดอลลาร์ ออสเตรเลีย 29.37 บาท
ดอลลาร์ สิงค์โปร์ 23.50 บาท
เบนซิน 95 33.69 บาท
เบนซิน 91 32.39 บาท
น้ำมันดีเชล 29.74 บาท
ราคาทองคำ รับซื้อ ขายออก
ทองคำแท่ง 13,450 บาท 13,550 บาท
ทองรูปพรรณ 13,249.84 บาท 13,950 บาท
Man………………
ชื่อธาตุ : MAN
ลักษณะทั่วไป : มีความยาวโดยเฉลี่ย 170 ซ.ม แต่อาจแปรเปลี่ยนได้จาก 150-200 แล้วแต่ว่าพบในภาคใด
คุณสมบัติทางพันธุศาสตร์
1. เจริญเติบโตได้ดีในนิโคตินและแอลกอฮอล์
2. นิยมความรุนแรง
3. มีกลิ่นเหม็น ตามธรรมชาติ
4. เฉาง่าย หากไม่ได้รับการเอาอกเอาใจ
5. อยู่ไม่เป็นที่ หาตัวยาก
6. อาจเปลี่ยนไปได้หลายบุคลิก แล้วแต่สถานการณ์(ในทางภาษาศาตร์เรียกว่า 'กะล่อน' )
7. การตอบสนองช้า ทนต่อการเสียดสีได้ดี
8. ความจำสั้น จดจำเรื่องในอดีตไม่ค่อยได้
คุณสมบัติทางเคมี
1. มีสารประกอบใช้ทำยาระบาย และยาเบื่อได้ดี
2. ทำปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วกับสิ่งสวยงามที่ผ่า นหน้า
3. เปลี่ยนได้หลายสีตามแต่ถิ่นที่อยู่อาศัย
4. คุณสมบัติเปลี่ยนรูปทรงได้เมื่อพบตระกูลใกล้เคียง
การทดสอบ
1. ตัดเนื้อเยื่อมาวิเคราะห์ พบว่าส่วนใบหน้ามีความหนามากว่าส่วนอื่นๆ
2. เมื่อสุ่มจากตัวอย่างทดลองเลี้ยงพบว่า ชอบเกาะยึดกันและกันมากกว่าจะเจริญเติบโตด้วยตัวเอง
3. มีปฏิกิริยาหวาดกลัวต่อสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า 'เมีย' แต่ถ้ามีพวกเดียวกันอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง จะแสดงอาการต่อสู้ไม่ยอมแพ้เมียทันที
4. จะมีความสุขมาก เมื่อได้ส่งเสียงโอ้อวดสรรพคุณของตัวเอง
5. กล้ามเนื้อหัวใจไม่แข็งแรง จะอ่อนตัวพ่ายแพ้ทันที ที่ประสาทตาส่งสัณญาณภาพเพศตรงข้ามมาให้
ประโยชน์
1. สายพันธุ์ที่ดีหากนำมาไว้ในบ้าน เชื่อว่าจะทำให้ร่ำรวยเงินทอง แต่ไม่ค่อยพบในประเทศไทย
2. เป็นเพื่อนเล่นยามเหงา
3. เป็นยามเฝ้าบ้านที่ดี เอาไว้ป้องกันตัวก็ได้
4. เป็นพาหนะใช้แบกขนสัมภาระได้ดีในยา มช็อปปิ้ง
ข้อควรระวัง
1. ควรเลี้ยงด้วยความระมัดระวัง มิฉะนั้นอาจนอกลู่นอกทางได้
2. ไม่ควรให้อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม เพราะจะยิ่งช่วยเร่งคุณสมบัติทางพันธุศาสตร์
3. ในตัวทดลองที่อายุมาก พบว่ามักมีอวัยวะลักษณะคล้ายงูยื่นออกมาจากศีรษะ และจะฉกอย่างว่องไวเมื่อมีสิ่งสวยงามอายุน้อยเดินผ่านมา
4. แพ้สารลลายบางชนิดได้แก่ คำพูดหวานๆ น้ำตา กิริยาออดอ้อนออเซาะ และสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า'พริตตี้'
Monday, January 7, 2008
ไขปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย
Friday, January 4, 2008
อัตราแลกเปลี่ยนประจำวัน 4 มกราคม 2551
ดอลลาร์ สหรัฐ 33.88 บาท
เยน ญี่ปุ่น(100) 30.70 บาท
ยูโร 49.62 บาท
ปอนด์ อังกฤษ 67.79 บาท
หยวน จีน 4.64 บาท
ดอลลาร์ ฮ่องกง 4.35 บาท
ดอลลาร์ ออสเตรเลีย 29.78 บาท
ดอลลาร์ สิงค์โปร์ 23.51 บาท
เบนซิน 95 33.29 บาท
เบนซิน 91 31.99 บาท
น้ำมันดีเชล 29.74 บาท
ราคาทองคำ--- รับซื้อ--------- ขายออก
ทองคำแท่ง--13,200 บาท -----13,300 บาท
ทองรูปพรรณ--13,200 บาท ----13,007.28 บาท
ขับง่าย หนึบกว่าเดิม
การทดสอบ แอคคอร์ด ใหม่ เราใช้เส้นทางไป - กลับ จาก โรงแรมเชอราตัน กระบี่บีช มุ่งไป อุทยานแห่งชาติโบกขรณี ระยะทางร่วมๆ 115 กิโลเมตร ซึ่งหลังจากตั้งจุดหมายด้วยระบบเนวิเกเตอร์แล้ว ก็ไม่ต้องกลัวหลงเพราะจะมีคุณป้าเสียงแจ๋วช่วยแนะนำเส้นทางโดยตลอด
ตามสไตล์ฮอนด้าที่ค่อนข้างเอาใจใส่ผู้ขับ โดย แอคคอร์ด ใหม่ ยังให้วิสัยทัศน์การขับขี่ดีเยี่ยม เบาะนั่งโอบกระชับปรับไฟฟ้าได้ 8 ระดับ พวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง พร้อมแพดเดิ้ลชิพด้านหลังปรับเลือกเกียร์เอง รวมถึงครูสคอนโทรลก็มิได้ขาดได้ลืม
ขณะที่ตัวรถคันโตไม่ได้ทำให้การขับเทอะทะ แม้รัศมีวงเลี้ยวจะอยู่ระดับ 5.64 เมตร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการควบคุมผ่านพวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนี่ยน พร้อมระบบอัตราทดแบบแปรผัน VGR (Variable Gear Ratio) ที่จะปรับการบังคับเลี้ยวตามสภาพการขับขี่ ส่งผลให้เราหมุนพวงมาลัยในจำนวนรอบที่น้อยลง (กรณีกลับรถ หรือถอยเข้าจอดซองแคบๆ) โดยชุดร่องเฟืองจะทำงานอย่างเหมาะสมรวดเร็วไม่ต้องเอี้ยวเลี้ยวให้เหนื่อย
นอกจากนี้ยังพยายามออกแบบให้จุดศูนย์ถ่วงของรถต่ำมากที่สุด ด้วยการวางเครื่องยนต์และถังน้ำมันต่ำลง ส่งผลให้ความสูงใต้ท้องรถ(Ground Clearance) ลดลง 12 มิลลิเมตร รวมถึงช่วงล่างปรับเซ็ทมาอย่างลงตัวทำให้ แอคคอร์ด ใหม่ ดูหนึบแน่นกว่ารุ่นเก่าอย่างรู้สึกได้ชัด การเข้าโค้งหนักๆที่ความเร็ว 80 – 100 กม./ชม. การโคลงหรือเหวี่ยงน้อยลง หรือทางตรงวิ่งยาวๆ 120 – 140 กม./ชม. ตัวรถยังนิ่ง ไร้ความกระโตกกระตาก
เครื่องยนต์ i-VTEC DOHC 4 สูบเรียง 16 วาล์ว
ความจุกระบอกสูบ(ซีซี) 2354
กำลังสูงสุด(แรงม้า/รตน.) 180/6,500
แรงบิดสูงสุด(นิวตันเมตร/รตน.) 222/4,300
ความยาว(มม.) 4,935
ความกว้าง(มม.) 1,845
ความสูง(มม.) 1,476
ระยะฐานล้อ(มม.) 2,800
น้ำหนักรวม(กก.) 1,556
ความจุถังน้ำมัน(ลิตร) 70
ระบบกันสะเทือน หน้า ดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือน หลัง มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง
ขนาดยางหน้า-หลัง 225/50R17
ราคา(บาท) 1,647,000
ปลัดกระทรวง คมนาคม
เป็นประธาน ในพิธีเปิดตัวการมาถึงของ รถไฟขบวนแรก
วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา
รถไฟฟ้าที่ใช้ในโครงการนี้ คือรถตระกูล Desiro® UK ของบริษัทซีเมนส์ ชนิดเดียวกันกับ
Heathrow Express ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ลักษณะขบวนรถเป็นแบบ Electrical Multiple Unit ต่อเป็นชุดขบวน 3-4 Bogeys ต่อขบวน เพิ่มBogeyได้เมื่อต้องการ
แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
2.SA City Line - สีน้ำเงิน รถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ประเภทรถด่วน SA Express 1 ขบวนมี 4 ตู้
SA Express มีเฉพาะที่นั่ง ปูพรมและที่นั่งบุด้วยผ้า เป็นที่นั่งคู่
ซ้ายขวาอย่างละ 2 แถว โดยมีชั้นสำหรับวางกระเป๋าสัมภาระเหนือที่นั่งทั้งสองฝั่งและข้างประตูทางเข้า
จุผู้โดยสาร 170 ที่นั่งต่อขบวน
•มีห้องสุขาโดยผู้ใช้ wheelchair สามารถเข้าใช้ห้องน้ำได้อย่างสะดวก
•มีตู้สำหรับขนส่งคอนเทนเนอร์กระเป๋าโดยเฉพาะ 1 ตู้
วิ่งระหว่างสถานีมักกะสันถึงสถานีสุวรรณภูมิ โดยไม่มีการจอดตามสถานีระหว่างทาง
ความเร็วเฉลี่ย 103 กม.ต่อชม. รวมระยะทาง 25.7 กม. ใช้เวลา 15 นาที
ประเภทรถไฟฟ้าท่าอากาศยาน
SA City Line
1 ขบวน มี 3 ตู้ ความเร็วเฉลี่ย 64 กม.ต่อชม. วิ่งระหว่างสถานีพญาไท
ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมระยะทาง 28.5 กม.
ให้บริการทั้งหมด 8 สถานี
1.พญาไท-BTS
2.ราชปรารภ
3.มักกะสัน-MRT
City Air Terminal
4.รามคำแหง
5.หัวหมาก
6.บ้านทับช้าง
7.ลาดกระบัง
8.สุวรรณภูมิ
ระยะทางระหว่างสถานีเฉลี่ย 4.1 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที เชื่อมต่อ BTS ที่สถานีพญาไท
เชื่อมต่อ MRT ที่สถานีมักกะสัน
SA City Line
รองรับผู้โดยสารยืนเป็นหลัก มีห่วงยึดและราวจับ ลักษณะที่นั่งจะเป็นแถวยาวเหมือน BTS หรือ MRT
รวมผู้โดยสาร745 คน นั่ง 150 คน ยืน 595 คน
จำนวนรถไฟฟ้าทั้งหมด 31 ตู้ รถไฟฟ้าด่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
SA Express 4 ขบวนๆ ละ 4 ตู้ = 16
รถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
SA City Line 5 ขบวนๆ ละ 3 ตู้ = 15
เวลาให้บริการ รถไฟฟ้าด่วน SA Express 05:00 น. – 01:00 น.
รถไฟฟ้า SA City Line บริการตลอด 24 ช.ม.
ความถี่ในการให้บริการ 05:00-01:00 ทุก 15 นาที ทั้ง 2 ประเภท
01:00-05:00 ทุก 30 นาที เฉพาะ City Line
รถไฟฟ้าด่วน 2 ขบวนแรก เดินทางมาถึงประทศไทยเมื่อ
วันอังคารที่ 16 ต.ค.2550 ที่เหลืออีก 7 ขบวน จะมาถึง ภายในต้นปี พ.ศ. 2551
SA Express 2 ขบวน และSA City Line 2 ขบวน
มีกำหนดจะมาถึงท่าเรือแหลมฉบังต้นเดือนมกราคม 2551
======================================================================= SA City Line 3 ขบวนสุดท้าย จะมาถึงในปลายเดือนมกราคม 2551
โดยการวิ่งทดสอบระบบครั้งแรก ในกรุงเทพฯ คาดว่าน่าจะเริ่มดำเนินการได้ใน
เดือนเมษายน พ.ศ. 2551
กำหนดเปิดให้บริการ ต้นปี 2552
ค่าโดยสาร สำหรับรถทั้ง 2 ประเภท ไม่มีการพูดถึง
ในการแถลงข่าว
ขอบคุณครับ
My Link
- Find to eat at Kata-Karon (Phuket)
- Find to eat at Nai-Yang (Phuket)
- Find to eat at Patong (Phuket)
- Find to eat at Phuket
- Find to eat at Phuket (City)
- Hotel in Chiang Mai
- Hotel in Phi Phi Island
- Hotel in Phuket
- Hotel in Samui
- Liverpool FC
- Make BIG Money With Google Adsense
- Make Money With Agloco
- Make Money With Cashfiesta
- Make Money With Text-Link-Ads
- News
- Return To The Bronze Forest