Google
 

Saturday, April 3, 2010

นี่นะหรือ... ภูผามรณะ

เมื่อ ๑๐๐ ปีก่อน....

เสียง ลมพัดปะทะหน้าผาดัง "หวีดหวิวๆ"
ใบไม้ส่ายตามแรงลม ฟังราวกับเสียงกระซิบของปีศาจ
กิ่งไม้ไหวระเอน ทำให้เกิดเงาโอนเอนไปมา
ดูเผินๆ คล้ายกับผู้คนหลายสิบกำลังเต้นรำบนหน้าผา เบื้องหน้าคอกหินปริศนา
ลึก ลงไปใต้หน้าผา ปรากฎภาพภาพเขียนแปลกๆ เขียนด้วยสีแดงชาด เป็นภาพปริศนาที่ดูแล้วไม่เข้าใจว่า คือ ภาพอะไรกันแน่...

เสียงเล่าขานของปู่ย่าตายายในอดีต ก้องในหู ถึงความเป็นมาของที่นี่

"ที่ นี่เป็นเขตต้องห้าม ภูผาเหล่านั้นมีความศักดิ์สิทธิ์นัก เป็นภูผาแห่งความตาย ใครล่วงล้ำเข้าไปมักมีอันเป็นไปอาจเจ็บไข้ หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต !!! "

ถ้าเจอกับบรรยากาศ แบบนี้
คงทำให้จิตใจของผู้คนที่เดินทางมาที่นี่เพียงลำพัง
เยือก เย็น สั่นไหว หวาดหวั่น มิกล้าจะเดินตามลำพังอีกต่อไป !!!

............

แตกต่างจากในยามนี้......

ที่ที่เดียวกัน ปรากฎกลุ่มของนักท่องเที่ยวนั่งคอยชมปรากฎการณ์ของแสงเช้า




แสงแรกเหนือริมฝั่งลำน้ำโขง


ที่ปลายสุดขอบฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้นทีละน้อย
แสงเรืองรองส่องให้เห็นสายน้ำโขงเบื้องล่างกำลังไหลรินอ่อยเอื่อย
ฉัน นั่งบนขอบหน้าผาเฝ้ามองฟากฟ้าจากสีดำมืด ค่อยๆ สว่างขึ้นทีละน้อย
จาก สีดำที่ค่อยๆ จางลง เป็นสีขาวเรื่อๆ สีฟ้า สีชมพู

เสียงของนักท่อง เที่ยวล่องลอยตามลม ราวกับเสียงพร่ำบ่นของสายลม
ผสมด้วยเสียงลมพัดฮือเป็นครั้งคราว พากิ่งไม้ไหว เหมือนใจคน

ดอกไม้ ป่ากลีบอ่อนบาง สะท้านรับสายลมยามเช้า
ส่งกลิ่นหอม..อ่อนอ่อน.. จางจางไปทั่วบริเวณ

รังต่อหลายรังเกาะกิ่งไม้ไหวพะเยิบบนหน้าผา
ไม่ ยี่หระกับสายลมแรง

บางทีฉันก็อยากมีบ้านเหมือนรังต่อนั้นล่ะ
บ้านบนต้นไม้ ท่ามกลางธรรมชาติ หน้าผา ป่าเขา
มีสายน้ำเย็นเบื้องล่างจรรโลงใจ
มี สายลม สายน้ำ และเสียงพร่ำบ่นแห่งความสุขของผู้คนที่มาเยือน เป็นเพื่อน

ชีวิตคงจะเป็นสุขเหมือนในยามนี้ ที่นั่งอยู่บนหน้าผาสูงชัน

ที่... ผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี
ที่ที่เราจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในประเทศ ไทย

............


ไม่น่า เชื่อนะ...
ภาพของ "ผาแต้ม" ในจิตใจของผู้คนจะเปลี่ยนไปได้มากมายถึงเพียงนี้

สถานที่ที่เดิม...
แค่ใจคนเปลี่ยน อารมณ์เปลี่ยน ทุกอย่างก็เปลี่ยน

เป็น ปริศนาธรรมที่ค้นพบอย่างฉับพลัน เมื่อนั่งรอแสงแรกแห่งวันที่ผา แต้มแห่งนี้





รอคอยด้วยความหวัง





แสง สวรรค์จากฟากฟ้าสู่ลำน้ำ





ท่ามกลางมวลไม้ป่า และสายลม





บรรยากาศ การชมพระอาทิตย์ขึ้น








ดอกไม้ และรังต่อ
ดอกไม้สีเหลือง คือ ดอกช้างน้าวค่ะ
ดอกสีขาว เดาเอาเองว่า น่าจะเป็นพุดป่าค่ะ






ค้นพบแล้ว!! ปริศนาธรรมบนลานหิน


ก่อนจะเที่ยวกันต่อ ขอเล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของอุทยานแห่งชาติผาแต้มสักนิดนะคะ เพื่อให้การท่องเที่ยวมีอรรถรสมากขึ้นค่ะ

สภาพพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม โดยทั่วไป
เป็นเทือกเขา มีลักษณะสูงๆ ต่ำๆ สลับกันไปทั่วพื้นที่ แนวเขตด้านทิศตะวันออก ใช้เส้นแบ่งเขตแดนประเทศและติดกับ ประเทศลาว ซึ่งมีแม่น้ำโขงเป็นแนวเขตโดยตลอด ความยาวประมาณ 63 กิโลเมตร

สภาพพื้นที่โดยรวมเป็นลานหิน และแนวเขตถัดจากฝั่งแม่น้ำโขงเป็น หน้าผาสูงชัน มีภูผาที่สำคัญได้แก่ ภูผาขาม ภูผาเมย ภูผาเจ็ก ภูผาสร้อย ภูย่าแพะ ภูชะนะได ภูผานาทาม ภูโลง ภูปัง ภูจันทร์แดง ภูหลวง ภูสมุย และภูกระบอ เป็นต้น

ภายในผาแต้มเฉพาะจุดที่เรามาเยือนในเช้าวันนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ นอกเหนือจากการชมตะวันขึ้น และตกดินที่ผาแต้ม คือ

คอกหินบนลานหินผาแต้ม และ ภาพเขียนประวัติศาสตร์อายุกว่า 3000 ปี ค่ะ

ไปชม "คอกหิน" กันค่ะ




"คอกหิน"




ปราก ฎหินตั้งทั่วไปในบริเวณคอกหิน จนผสมปนเปไปหมด
มะรุอันไหนของใหม่ หรือของเก่าแล้วค่ะ





แม้ แต่บนต้นไม้ยังปรากฎ "หินตั้ง"


"คอก หิน" เป็นสถานที่อีกจุดที่มีความน่าสนใจ โดยคอกหินดังกล่าว พบอยู่บนลานหินเหนือผาขาม (ตรงจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นนั่นล่ะ) ประกอบด้วยกลุ่มก้อนหินวางเรียงเป็นรูปวงกลมขนาดใหญ่ มีอายุหลายร้อยปี โดยนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับภาพเขียนที่พบ ด้านใต้ของคอกหิน

ปัจจุบันยังไม่สามารถสรุปถึงที่มา ที่ไปของกองหินเหล่านี้ได้ ได้แต่สันนิษฐานกันว่า

น่าจะเกี่ยวข้องกับความเชื่อเกี่ยวกับ ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ
หรือเป็นการประกอบพิธีกรรมบูชาสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์
หรืออาจเป็นการแสดงความเคารพดวงวิญญาณของ บรรพบุรุษ

คล้ายกับวัฒนธรรมหินตั้ง อันเป็นความเชื่อดั้งเดิม ที่พบแพร่หลายในเอเชียอาคเนย์เกี่ยวกับความอุดม สมบูรณ์ และการนับถือบรรพบุรุษ ในลักษณะเดียวกับ "ทุ่งไหหิน" ในลาว และ "สโตนเฮนจ์" ในอังกฤษค่ะ

โดยการปักหินตั้งเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยง ระหว่างคนที่ยังมีชีวิตอยู่กับผู้ที่ตายไปแล้ว กล่าวคือ เชื่อกันว่าผู้ที่ตายแล้วมีพลังที่สามารถบันดาลให้เกิดความอุดม สมบูรณ์ได้ค่ะ

ได้ฟังแบบนี้แล้ว อยากจะไปตั้งหินบนผาแต้มกับเค้าบ้างไหมล่ะค่ะ...
(แหะ..แหะ.. ส่วนตัวม่ายอาวด้วยหร้อก)

เสร็จจากการชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้
ก็ เตรียมสองขาให้พร้อมไปชมภาพเขียนประวัติศาสตร์กันเลยค่ะ




แล้ว เจอกันตอนหน้านะคะ...
ตอนนี้ให้ข้อมูลการเดินทางก่อนค่ะ


ข้อมูลการเดินทาง :

ผาแต้มอยู่ห่างจากอำเภอโขงเจียม จ.อุบลราชธานีประมาณ 18 กิโลเมตร หากต้องการชมพระอาทิตย์ขึ้น แนะนำให้มาพักที่ อ.โขงเจียมค่ะ ตื่นประมาณตี 5 ยังไปชมพระอาทิตย์ขึ้นได้สบายๆ ค่ะ

ที่นี่ยังมีที่ เที่ยวอีกหลายแห่งที่ต้องใช้กำลังของ 2 ขาอีกมากมาย การไปเยี่ยมชมในยามเช้าจึงน่าจะดีค่ะ เพราะแสงแดดไม่แรงเกินไป เดินได้สบายๆ ค่ะ

No comments: