Google
 

Saturday, April 3, 2010

เจอแล้ว..กาแฟแพงที่สุดใน โลกกับถ้วยกาแฟหายากที่มุมสวย..ที่นี่!!!

ากบทความที่แล้วเมื่อหัวใจไขว่คว้าเกินกว่าคำว่ากาแฟ!! มี บางท่านสงสัยเรื่อง ดื่มชา น่าจะมีคาเฟอีนน้อยกว่า กาแฟ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว กาแฟ โดยเฉพาะกาแฟที่ผ่านขบวนการแล้วมาชงเป็น แบบกาแฟสดนั้นมีคาเฟอีนน้อยกว่า ซึ่งขบวนการดังกล่าวคือ การอบ และการคั่ว พูดอย่างนี้เดี๋ยวผู้นิยมดื่มชาจะเคืองเอาได้ เพราะแม้ว่าชา กาแฟ จะมีคาเฟอีน แต่กาแฟ อาจมีการลดคาเฟอีนในขบวนการอบ และคั่ว แต่ชาก็มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยลดอนุมูลอิสระ ลดการก่อมะเร็ง อันมีประโยชน์ด้วย จึงนับว่า มีประโยชน์ทั้ง ชา และกาแฟ แต่ต้องมีปริมาณการบริโภคที่ไม่ควรมากเกินไป สำหรับในบทความนี้จะขอเอ่ยถึงกาแฟต่อกันค่ะ

ภาพกาแฟ จากบล็อก คุณrabbitzilla

ภาพเมล็ดกาแฟที่ ยังไม่คั่วในขั้นตอนต่างๆ จากขวาไปซ้าย: เมล็ดกาแฟสด ที่เพิ่งถูกคัดมา, หลังจากอบแห้ง และ 1 ปีหลังจากอบแห้ง รูปถ่ายที่ Toko Aroma ใน บันดุง, อินโดนีเซีย

กาแฟคั่ว

ารคั่วให้เมล็ดกาแฟมีสีเข้มมักจะทำให้ เมล็ดกาแฟมีผิวเรียบขึ้น เพราะว่าเมล็ดกาแฟเหลือใยอาหารอยู่น้อย และจะมีความหวานมากขึ้น การคั่วอ่อน ๆ เมล็ดกาแฟจะเหลือคาเฟอีนสะสมอยู่มาก ทำให้กาแฟมีรสชาติขมอ่อน ๆ และมีรสชาติเข้มขึ้นจากน้ำมันหอมและกรด ซึ่งจะสูญเสียไปหากคั่วเมล็ดกาแฟเป็นเวลานาน ระหว่างการคั่วเมล็ดกาแฟ จะก่อให้เกิดกากเล็กน้อยจากผิวของเมล็ดกาแฟภายหลังการคั่วแล้ว กากจะถูกกำจัดโดยการเคลื่อนไหวของ อากาศ แม้ว่าในเมล็ดกาแฟคั่วที่มีสีเข้มกว่าจะมีการเติมกากเพื่อให้เมล็ด กาแฟมีน้ำมันชุ่ม นอกจากนี้ ระหว่างกระบวนการอาจมีการกำจัดคาเฟอีนด้วย เมล็ดกาแฟจะถูกกำจัดคาเฟอีนขณะยังเขียวอยู่ มีหลากหลายวิธีในการกำจัดคาเฟอีนออกจากกาแฟ เช่น การแช่เมล็ดกาแฟในน้ำร้อนหรือการอบเมล็ดกาแฟ จากนั้นใช้ตัวทำ ละลายในการละลายน้ำมันที่มีคาเฟอีนผสมอยู่ด้วย ภาพขวา ภาพเครื่องอบกาแฟขนาดใหญ่แบบเก่าหล่อจากเหล็ก ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง ตั้งอยู่ใน Toko Aroma ใน บันดุง, อินโดนีเซีย

การกำจัดคาเฟอีนมักจะทำโดยผู้ประกอบการ จากนั้นคาเฟอีนที่ถูกแยกออกมามักจะถูกจำหน่ายให้กับภาคอุตสาหกรรม ทางยา

เคยอ่านบทความจากนิตยสารเล่มหนึ่งเมื่อ หลายปีมาแล้วว่ามีกาแฟสายพันธุ์หนึ่ง ได้ชื่อว่า รสชาติสุดยอด และแพงที่สุดในโลกอีกต่างหาก ชื่อว่า Kopi Luwak หรือ กาแฟขี้ชะมด

คำว่า Kopi ในภาษาอินโดนีเซีย แปลว่า กาแฟ

ส่วน Luwak หมายถึง ชะมดพันธุ์ Paradoxurus ที่อาศัยอยู่ในประเทศอินโดนีเซี

ชะมดพันธุ์ Paradoxurus

เมื่อรวมทั้งสองคำ ก็คือ Kopi Luwak [อ่านว่า โกปิ ลูวะ] หมายถึง กาแฟขี้ชะมดนั่นเอง

กาแฟชนิดนี้เป็นผลผลิตที่ออกมาพร้อมกับ ขี้ชะมด
ล้วกาแฟมันมาจากตัวชะมดได้ไง?

กาแฟชนิดนี้มาจากไร่บนเกาะสุมาตรา โดยเริ่มต้นจากชาวไร่กาแฟจะเลี้ยงชะมดพันธุ์พื้นเมืองนี้ไว้ในไร่ กาแฟและปล่อยให้มันกินผลของกาแฟสุกที่อยู่ในไร่ เมื่อชะมดถ่ายมูลของมันออกมาก็จะมีเมล็ดกาแฟติดออกมาด้วย จะเห็นได้ว่า เมล็ดกาแฟไม่ได้ถูกย่อย อยู่ในสภาพสมบูรณ์ทุกเมล็ด

ทำไมมันราคาแพงที่สุดในโลก?

คอ กาแฟหลายคนเล่าว่ามีราคาแพงและหายากที่สุดก็เนื่องจากกระบวนการ ผลิตที่ซับซ้อนกว่าการปลูกกาแฟทั่วไป ชะมดเป็นสัตว์ที่กินยาก เลือกกินเฉพาะเมล็ดกาแฟที่สุกดีแล้วเท่านั้น ขณะที่ผลกาแฟอยู่ในท้องของตัวชะมดนั้นเมล็ดจะผสมกับเอมไซม์และสาร เคมีที่อยู่ในกระบวนการย่อยของมัน ทำให้กาแฟชนิดนี้มีกลิ่นและลักษณะ เฉพาะตัว

ผู้เชี่ยวชาญกาแฟบางรายระบุว่ากาแฟที่ เก็บจากมูลชะมดทำได้ยากกว่าเก็บจากต้นจึงทำให้กาแฟชนิดนี้มีราคา สูง

ขั้นตอนหลังจากนั้นก็จะเห มือนการทำกาแฟชนิดอื่นๆ ด้วยการนำไปล้างเอามูลชะมดออกให้หมดจด และขั้นตอนสุดท้ายคือนำไปคั่วเพื่อพร้อมที่จะนำส่งให้บรรดาร้าน กาแฟต่อไป และด้วยขั้นตอนการได้มาของกาแฟขี้ชะมดยากแสนยากอย่างนี้ ทำให้ในปีหนึ่งมีกาแฟชนิดนี้ออกมาสู่ตลาดเฉลี่ยปีละ 500 ปอนด์เท่านั้น ราคา ก็ ปอนด์ ละ 300$ เหรียญเท่านั้น อยากรู้เป็นเงินไทยเท่าไหร่ ลองคำนวณดูกัน ใครอยากจะลองชิม ก็ต้องจ่ายถึง 500บาทต่อแก้ว โห!!คงไม่มีร้านกาแฟที่ไหนบ้าจี้เอามาชงขาย ด้านซ้ายเป็นหน้าตากาแฟขี้ชะมดที่เพิ่งเก็บมาใหม่ๆ บรรจุภัณฑ์ต้องหรูหรา และต้องถูกเก็บรักษาอย่างดี แถมขี้ชะมดในแท่งแก้วเพื่อยินยันว่าเป็น ของจริง

เข้า แถว ลงชื่อ เพื่อรอชิมกาแฟแพงที่สุดในโลก

เจอแล้ว ...มาที่นี่ ได้ชิมกาแฟขึ้ชะมดด้วย!!!!

มาที่งาน Thailand Coffee Tea & Drinks 2010 ที่เดอะมอลล์บางกะปิ ได้เข้าแถวชิมกาแฟขี้ชะมด กับเขาด้วย

สุนทรียแห่งการดื่มกาแฟ คิดถึงภาพ..เอสเพรสโซกำลังต้มกับครี มาสีน้ำตาลแดงเข้ม กลิ่น หอมอวล........โอ...ความสุขและสุนทรียจริง หนอ..

กาแฟสามารถต้มได้ด้วยวิธีการจุ้มใน เครื่องต้มกาแฟ ผงกาแฟและน้ำร้อนจะถูกผสมรวมกันในเครื่องต้ม และใช้เวลาไม่กี่นาทีในการต้ม เครื่องแทงจะลดระดับลงเพื่อใช้แยกผงกาแฟ ซึ่งจะเหลืออยู่ที่ก้นของเครื่องต้ม เนื่องจากผงกาแฟสัมผัสกับ น้ำโดยตรง น้ำมันกาแฟทั้งหมดจึงยังเหลืออยู่ในกาแฟนั้น ทำให้กาแฟมีรสชาติเข้มขึ้น และพบว่ามีตะกอนอยู่มากกว่ากาแฟซึ่งผลิตใน เครื่องทำกาแฟอัตโนมัติ

ส่วนเอสเพรสโซ่ใช้วิธีการพาสเจอร์ไร ซ์ร้อน แต่ไม่ถึงกับเดือด โดยให้น้ำไหลผ่านผงกาแฟ ผลจากการต้มภายใต้แรงดันสูงประมาณ 9-10 หน่วยบรรยากาศ ทำให้เครื่องดื่มเอสเพรสโซ่มีรส แรงมาก คิดเป็น 10-15 เท่าของกาแฟที่ใช้วิธีแรงโน้มถ่วง และมีองค์ประกอบทางกายภาพและ ทางเคมีที่ซับซ้อน กาแฟเอสเพรสโซ่ชั้นดีจะมีครีมสีน้ำตาลแดงลอย อยู่บนผิวหน้า ที่เรียกว่า "ครีมา" ส่วนเครื่องดื่ม "อเมริกาโน" ซึ่งได้ชื่อมาจากทหารอเมริกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากที่ทหารเหล่านั้นคิดว่ากาแฟเอสเพรสโซ่ในแบบของชาวยุโร ปนั้นมีรสชาติแรงเกินไป จึงมีการทำให้เจือจางโดยใส่น้ำมากขึ้นกว่ากาแฟ เอสเพรสโซ่

ภาพเอสเพรสโซ กำลังต้มกับครีมาสีน้ำตาลแดงเข้ม

น้ำเชื่อม นมพาสเจอร์ไรส์สำหรับเติมกาแฟ เติมได้ตามรสนิยม

บาริสต้า กับลวดลายแห่งสุนทรีย กาแฟสด

1 comment:

Cookies said...

เป็นบล็อกให้ข้อมูลเกี่ยวกับอินโดนีเซ๊ยและแปลภาษาอินโดนีเซียที่ดีจริงๆ