Google
 

Friday, January 11, 2008

ภัยที่ผู้หญิงต้องระวัง

รวบแก๊งรถตู้ภัยสังคมฉุดสาวโรงงานที่ยืนรอรถไปทำงานขึ้นรถปลดทรัพย์ บังคับกดเอทีเอ็ม และรุมข่มขืนยับบนรถรวมทั้งถ่ายคลิปวีดีโอแบล็กเมล์เหยื่อ เพื่อไม่ให้แจ้งความ ตำรวจส่งชุดสืบสวนแกะรอยคนร้ายจนสามารถรวบได้ยกแก๊งภายใน 1 อาทิตย์ อย่างไรก็ตามขอให้สาวผู้เสียหายรายอื่น ที่ยังไม่ได้แจ้งความรีบมาแจ้งความด้วย

ตำรวจโชว์ฝีมือรวบแก๊งรถตู้ภัยสังคมรายนี้เปิดเผยขึ้น เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ธน ยุติธรรมดำรง รอง ผบก..ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.สีหศักดิ์ สร้อยศรี ผกก.สภ.แหลมฉบัง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งรถตู้โฉด จำนวน 4 คน ประกอบด้วยนายเสรี ภิรมย์ปั่น อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/15 หมู่ 8 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี นายประเสริฐ แจ่มใส อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 14 ต.เกาะจันทร์ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี นายอาร์ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี มีบ้านพักอยู่ จ.ชลบุรี และนายเก่ง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี มีบ้านพักอยู่ จ.นนทบุรี พร้อมของกลางเป็นรถยนต์ตู้โตโยต้า สีเขียวอ่อน หมายเลขทะเบียน นค-2359 ชลบุรี, อาวุธมีด 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ โดยที่ทาง สภ.แหลมฉบังได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากพนักงานสาวของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังว่า มีคนร้ายเป็นแก๊งรถตู้ฉุดขึ้นรถแล้วปลดทรัพย์สินไป และยังรุมข่มขืนนำโทรศัพท์มือถือถ่ายคลิป และบังคับให้บอกรหัสเอทีเอ็ม ไปกดเงินจนเกลี้ยง ทางชุดสืบสวน สภ.แหลมฉบัง จึงได้ออกทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายจนสามารถได้เบาะแสและจับกุมตัวได้ในเวลาแค่เพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงต่อไปว่า สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายแก๊งนี้ก่อนก่อเหตุได้ทำทีเป็นคนขับรถตู้รับส่งพนักงานในโรงงานในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของชลบุรี ออกตระเวนหาเหยื่อซึ่งเป็นหญิงสาวโรงงานที่ยืนรอรถประจำทางไปทำงานในช่วงเวลาเช้า เมื่อพบว่าหน้าตาดีและสวมใส่เครื่องประดับมีราคาก็จะร่วมกันใช้กำลังฉุดกระชากขึ้นรถตู้และใช้หมวกปิดหน้าตาของเหยื่อ ก่อนทำการปลดทรัพย์สินที่ติดตัวมาพร้อมทั้งบังคับให้บอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม และนำไปกดเงิน จากนั้นก็นำตัวขึ้นรถขับรถไปเรื่อยๆ และระหว่างทางก็ผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนและยังถ่ายคลิปวีดีโอ ไว้เพื่อขู่บังคับไม่ให้เหยื่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนปล่อยตัวลงกลางทาง
เมื่อได้ทรัพย์สินก็จะนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพและเที่ยวเตร่ตามสถานบริการ เมื่อหมดเงินก็จะก่อเหตุอีก ซึ่งทางตำรวจ สภ.แหลมฉบัง ได้พยายามเร่งติดตามหาตัวคนร้ายแก๊งนี้จนกระทั่งพบจากกล้องทีวีวงจรปิดร้านทองแห่งหนึ่งที่คนร้ายนำบัตรเครดิตของเหยื่อลงไปซื้อทองคำรูปพรรณในพื้นที่ สภ.แหลมฉบัง แล้วนำไปขยายความชัดของภาพถึงบริษัทกันตนาที่กรุงเทพฯ จนพบว่ารถตู้ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุไฟเลี้ยวด้านหน้าฝั่งคนขับแตก จึงให้ตำรวจในพื้นที่คอยสอดส่องรถตู้ในลักษณะดังกล่าว

กระทั่งพบกำลังวิ่งวนเวียนในแถบตลาดสี่มุมเมือง แหลมฉบัง จึงเข้าตรวจค้นจนพบว่าเป็นแก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว โดยผู้ต้องหาให้การสารภาพว่าในช่วงเดือนธันวาคม 2550 ได้ก่อเหตุในพื้นที่อำเภอศรีราชา 2 ครั้งและอำเภอบางละมุง 1 ครั้ง ทุกครั้งจะปลดทรัพย์สินของเหยื่อและรุมข่มขืนถ่ายคลิปไว้เพื่อให้เหยื่อไม่กล้าแจ้งความเพราะอับอาย และจะเลือกลงมือกับหญิงสาวหน้าตาดีที่มีทรัพย์สินติดตัวเป็นทองรูปพรรณสวมใส่อยู่ และเป็นสาวโรงงานที่ยืนรอรถตู้ประจำทางไปทำงานโรงานในช่วงเช้า ซึ่งเห็นว่าทำแล้วรายได้ดีเพราะเหยื่อบางคนมีเงินฝากหลายหมื่นบาท ซึ่งได้จากการนำบัตร เอทีเอ็มของเหยื่อไปกดตามตู้ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า คนร้ายแก๊งนี้น่าจะก่อเหตุมาหลายสิบครั้งแล้ว เนื่องจากการก่อเหตุแต่ละครั้งสร้างความอับอายแก่ผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาว ทำให้เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายที่เป็นหญิงไม่กล้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายราย จึงอยากให้ผู้เสียหายที่ถูกก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วรีบมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ต้องหาทั้งหมด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

ที่มา บ้านเมือง

No comments: